แม้สัดส่วนงาน Work from Home จะลดลงในภาพรวม แต่โอกาสทำงานจากที่บ้านยังคงมีอยู่สำหรับคนที่รู้ว่าควรมองหาจากที่ไหน ล่าสุด FlexJobs เว็บไซต์จัดหางานชื่อดัง เปิดเผยรายชื่อ 100 บริษัทชั้นนำที่เปิดรับสมัครงาน WFH ในปี 2025 จากการรวบรวมข้อมูลบริษัทกว่า 6 หมื่นแห่งที่ลงประกาศรับสมัครงานบนเว็บไซต์ในช่วงปี 2024
น่าสนใจว่าในปี 2024 จำนวนตำแหน่งงาน WFH เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปี 2023 กลับมาเติบโตในระดับเดียวกับปี 2022 โดย 70% ของตำแหน่งงานเป็นระดับกลางถึงมีประสบการณ์ ขณะที่ข้อมูลจาก LinkedIn ระบุว่างาน WFH มีเพียง 8% ของตำแหน่งงานทั้งหมดในเดือนธันวาคม 2024 ลดลงจาก 18% ในช่วงต้นปี 2022
อย่างไรก็ตาม Ladders เว็บไซต์หางานสำหรับตำแหน่งเงินเดือนหลักแสนขึ้นไป รายงานว่าตำแหน่งงานที่ให้เงินเดือนตั้งแต่ 2.5 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 8.7 ล้านบาท) ขึ้นไป มีการเปิดรับแบบ WFH 10.4% ในไตรมาส 3 ปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 8.8% ในไตรมาสก่อนหน้า
John Mullinix ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Ladders อธิบายว่า แม้อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการเงินจะลดตัวเลือกการทำงานจากที่บ้านลงเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่ธุรกิจอื่นๆ กลับเริ่มยอมรับการทำงานแบบ WFH มากขึ้น เนื่องจากช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพื้นที่สำนักงาน และเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถจ้างพนักงานที่มีความสามารถจากทั่วโลก โดยไม่ถูกจำกัดด้วยที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
20 อันดับบริษัทที่เปิดรับงาน WFH มากที่สุดในปี 2025 ประกอบด้วย Working Solutions, LiveOps, UnitedHealth Group, Kelly และ TELUS นำโดย 5 อันดับแรก ตามด้วย Robert Half International, Prime Therapeutics, Transcom, BCD Travel และ Amplify Education ในอันดับ 6-10
ส่วนอันดับ 11-20 ได้แก่ CVS Health, Creative Financial Staffing (CFS), AECOM, Lee Hecht Harrison (LHH), BELAY, GovCIO, Everlight Solar, Thermo Fisher Scientific, Veeva Systems และ Insight Global
Toni Frana ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจาก FlexJobs เผยว่า ตำแหน่งที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดคือ Product Manager และ Software Engineer ซึ่งมีเงินเดือนเฉลี่ยมากกว่า 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.6 ล้านบาท) ในสหรัฐอเมริกา และโอกาสการทำงาน WFH ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในภาคเทคโนโลยีอีกต่อไป
“ในปีที่ผ่านมาการจ้างงานแบบ WFH เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในสาขาอย่างการพัฒนาธุรกิจและการสื่อสาร” Frana กล่าว พร้อมระบุว่าสาขาการตลาด บัญชี และการเงิน มีการเติบโตของโอกาสงาน WFH มากกว่า 30% ในปี 2024 เธอยังเสริมว่าในบรรดา 20 บริษัทที่เปิดรับงาน WFH มากที่สุด อุตสาหกรรมที่มีการเปิดรับมากที่สุดคือ เทคโนโลยี ทรัพยากรบุคคลและการสรรหาบุคลากร การเงิน และการดูแลสุขภาพ
แม้บริษัทอย่าง Amazon และ Boeing จะเข้มงวดกับนโยบายกลับมาทำงานที่ออฟฟิศมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา แต่บริษัทอย่าง Spotify และ Allstate ยังคงสนับสนุนนโยบายการทำงานแบบยืดหยุ่น
โดยมองว่าการให้อิสระกับพนักงานเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จของที่ทำงานในอนาคต ข้อมูลจากการสำรวจหลายแห่งยังพบว่า พนักงานที่มีความยืดหยุ่นในการทำงานมักมีความพึงพอใจในงานสูงกว่า และมีแนวโน้มที่จะอยู่กับองค์กรนานกว่า
Frana คาดการณ์ว่าในปี 2025 การพูดคุยเรื่องนโยบายการกลับไปทำงานที่ออฟฟิศจะเปลี่ยนไป องค์กรต่างๆ จะเริ่มทดลองนโยบายการทำงานแบบ WFH และไฮบริดมากขึ้น ซึ่งอาจเปิดโอกาสมากขึ้นสำหรับผู้หางานในตลาดที่มีการแข่งขันสูง
อย่างไรก็ตาม เธอเตือนว่า “แม้จำนวนประกาศรับสมัครงาน WFH จะเพิ่มขึ้นในปีที่ผ่านมา แต่ต้องไม่ลืมว่าตำแหน่งงานประเภทนี้ยังคงมีผู้สนใจสูงมากในกลุ่มคนหางาน”
การทำงานแบบ WFH ดูเหมือนจะกลายเป็น ‘สวัสดิการพิเศษ’ ที่บริษัทใช้ดึงดูดและรักษาบุคลากรที่มีความสามารถ โดยเฉพาะในตำแหน่งที่มีเงินเดือนสูง แม้ตลาดงาน WFH จะมีการแข่งขันสูง แต่โอกาสยังคงมีอยู่สำหรับผู้ที่มีทักษะตรงตามความต้องการของตลาด และรู้จักมองหาโอกาสในช่องทางที่เหมาะสม
ภาพ: LightField Studios / Shutterstock
อ้างอิง:
