โลกแห่งการลงทุนปีนี้นับเป็นปีแห่งความท้าทาย ปัจจัยมากมายทำให้ตลาดผันผวนไม่หยุดหย่อน เพื่อคว้าโอกาสท่ามกลางความไม่แน่นอน เครื่องมือการลงทุนแบบใดจะช่วยให้เราชนะความไม่แน่นอนและเพิ่มพลังการลงทุนได้?
ทิศทางตลาดหุ้นไตรมาส 4 ที่ต้องรู้ก่อนการลงทุน
เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปทำให้เป็นปีที่ท้าทายต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพราะปัจจัยการลงทุนมีความแตกต่างกันในรายละเอียดของแต่ละภูมิภาค
ตลาดหุ้นพัฒนาแล้ว (DM: Developed Market) โดยเฉพาะสหรัฐฯ และยุโรป แม้จะให้ผลตอบแทนที่ดี แต่ก็กำลังเข้าสู่ช่วงผันผวนจากการตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงเป็นครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ทำให้แต่ละประเทศทยอยลดดอกเบี้ยลง จึงส่งผลต่อภาพการลงทุนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ที่เป็นปัจจัยสำคัญ
ตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นฮ่องกง ช่วงเดือนกันยายนมีความผันผวนอย่างยิ่งจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ของรัฐบาลจีนที่ส่งผลให้ดัชนี Hang Seng และดัชนีตลาดหุ้นจีน A-Share ปรับตัวเพิ่มขึ้นสลับย่อตัวอย่างรุนแรง นักลงทุนเข้าซื้อและขายทำกำไรออกมาเป็นช่วงๆ ตามกระแสข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทยอยประกาศรายละเอียดตามออกมา
ตลาดหุ้นไทยเพิ่งผ่านความผันผวนในจุดต่ำสุดช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาจากการมาของกองทุนวายุภักษ์ และความคาดหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงปลายปี 2024 จากการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ การท่องเที่ยว และการส่งออก อย่างไรก็ตาม ยังต้องจับความท้าทายจากหนี้ครัวเรือนที่สูงและเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
ถือว่าปีนี้เป็นปีที่การลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงนั้นไม่ง่ายเลย หากมองภาพอนาคตปีหน้าปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความผันผวนก็ยังรออยู่อีกไม่น้อย
กลยุทธ์การลงทุนปลายปี หรือ Wealth Lending คือคำตอบ?
หนึ่งในทางออกท่ามกลางความไม่แน่นอนคือการกระจายการลงทุน (Asset Allocation) ไปยังสินทรัพย์เสี่ยงต่ำและเสี่ยงสูงทั่วโลก เนื่องจากช่วยเก็บเกี่ยวโอกาสจากการลงทุนในตราสารหนี้และหุ้น โดยมีเคล็ดลับในการลงทุนคือ
- เน้นไปที่ตราสารหนี้คุณภาพดี
- อันดับเครดิตอยู่ในระดับที่ลงทุนได้
- การคัดเลือกหุ้นคุณภาพเชิงรับ (Defensive) ที่มีกิจการดี ผันผวนน้อยกว่าตลาด และกระจายไปยังตลาดหุ้นทั่วโลก
สำหรับลูกค้า SCB PRIVATE BANKING ที่ความมั่งคั่งทางการเงินสูงและมีสินทรัพย์ที่ถือครองมูลค่าสูง สามารถใช้โอกาสนี้สร้างความมั่งคั่งได้ด้วยหลักการของ ‘Wealth Lending’ การลงทุนเพื่อเพิ่มพลังเงินลงทุน (Leveraged Investment) ด้วยสินเชื่อเพื่อการลงทุน ‘Lombard Loan’ และ ‘Property-Backed Loan’
ลูกค้า SCB PRIVATE BANKING สามารถใช้สินทรัพย์ทางการเงินต่างๆ มาใช้เป็นหลักประกันขอวงเงินสินเชื่อเพื่อนำไปลงทุนได้เมื่อจังหวะการลงทุนมาถึง เช่น
- หุ้นสามัญ
- หุ้นกู้
- กองทุนรวม
- อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดิน หรือที่อยู่อาศัยซึ่งปลอดภาระ
การทำ Wealth Lending สร้างโอกาสการลงทุนให้ลูกค้ามั่งคั่ง
Wealth Lending สำหรับลูกค้ามั่งคั่ง (High Net Worth) เป็นการลงทุนแบบเพิ่มพลังเงินลงทุนโดยใช้สินทรัพย์ที่ถือครองมาทำ Leveraging เพื่อเพิ่มพลังเงินลงทุนไว้สร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม
ปัจจุบันสามารถทำได้ง่ายผ่านสินเชื่อเพื่อการลงทุน เช่น
- Lombard Loan ใช้สินทรัพย์ทางการเงินที่มีความต้องการในตลาดเป็นหลักประกัน
- Property-Backed Loan ใช้อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่ดินหรือที่อยู่อาศัยซึ่งปลอดภาระ มาเป็นหลักประกันจดจำนอง
สินเชื่อเพื่อการลงทุนเหล่านี้เป็นตัวช่วยที่ทำให้นักลงทุนสามารถบรรลุเป้าหมายของการลงทุนได้รวดเร็วขึ้น โดยไม่เสียโอกาสหากมูลค่าสินทรัพย์ที่ถือครองปรับเพิ่มขึ้นในอนาคต โดยการใช้สินเชื่อเพื่อการลงทุนนั้นมีประโยชน์และช่วยเปิด 3 โอกาส ดังนี้
1. โอกาสในการลงทุน
พอร์ตการลงทุนของลูกค้ามั่งคั่งกระจายความเสี่ยงไว้สินทรัพย์ต่างๆ และมักจะไม่ถือเงินสดไว้มาก ทำให้เมื่อเจอโอกาสการลงทุนใหม่ก็มักจะขาดเงินสดจนต้องปรับพอร์ตโดยขายสินทรัพย์ที่ไม่ต้องการขาย Wealth Lending จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินได้ โดยนำสินทรัพย์ลงทุนเดิมที่มีอยู่แล้วเป็นหลักประกัน และนำสินเชื่อที่ได้มาไปลงทุนคว้าโอกาสได้
2. โอกาสกระจายความเสี่ยงให้เหมาะกับภาวะตลาด
ใช้วงเงินที่ได้จากสินเชื่อเพื่อการลงทุนแบบ Wealth Lending มาปรับพอร์ตการลงทุน เช่น เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ หรือในกลุ่มหลักทรัพย์ ESG เพื่อกระจายความเสี่ยงให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดที่ผันผวน การใช้สินเชื่อเพื่อการลงทุนจะช่วยปรับพอร์ตการลงทุนโดยไม่จำเป็นต้องขายสินทรัพย์การลงทุนที่มีอยู่
3. โอกาสเสริมสภาพคล่องและเพิ่มผลตอบแทน
ใช้วงเงินสินเชื่อเพื่อการลงทุนแบบ Wealth Lending เสริมสภาพคล่องด้านกระแสเงินสด และยังใช้เพิ่มพลัง Leverage เพื่อสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าปกติได้ ซึ่งในสภาวะที่สินทรัพย์การลงทุนมีหลากหลายกระจายอยู่ทั่วโลก ผนวกกับสภาวะที่โลกกำลังเข้าสู่วงจรดอกเบี้ยขาลง เป็นปัจจัยสนับสนุนสำคัญที่ทำให้การใช้สินเชื่อเพื่อการลงทุนมีความน่าสนใจ และสร้างโอกาสเร่งผลตอบแทนได้มากขึ้นด้วยต้นทุนทางการเงินที่ลดลง
Lombard Loan และ Property-Backed Loan ใช้อะไรในตอนไหน?
Lombard Loan และ Property-Backed Loan เป็นสินเชื่อเพื่อการลงทุนที่ออกแบบสำหรับลูกค้า Private Banking ที่ต้องการเพิ่มกระแสเงินสด นำเงินกู้ไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินหลากหลายประเภททั้ง Onshore และ Offshore ภายในกลุ่ม SCBX ผ่านธนาคารไทยพาณิชย์, บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด (InnovestX), บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด และ บริษัท หลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จูเลียส แบร์ จำกัด
กลุ่มลูกค้ามั่งคั่งมีการ Leveraging สินทรัพย์ที่ตนเองถืออยู่ เพื่อเปลี่ยนสินทรัพย์การลงทุนมาเป็นสภาพคล่องได้ง่าย และมีค่าใช้จ่ายในการทำวงเงินไม่มากนัก เพียงใช้สินทรัพย์ทางการเงินที่มีความต้องการในตลาดของลูกค้าเป็นหลักประกัน เช่น เงินฝาก, หุ้นกู้, หุ้นสามัญ, กองทุนรวม หรือพันธบัตร มาเป็นหลักประกันวางไว้กับสถาบันการเงินเพื่อขอสินเชื่อได้
Property-Backed Loan คือการเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ เช่น ที่ดิน, อาคาร, สิ่งปลูกสร้าง หรือห้องชุด ซึ่งปกติอาจต้องใช้เวลานานในการขายแปลงเป็นเงินสด หรือเป็นทรัพย์สินที่ตั้งใจเก็บไว้ส่งต่อให้รุ่นถัดไปให้กลายเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงขึ้นผ่านการให้สินเชื่อ โดยใช้อสังหาริมทรัพย์เหล่านี้เป็นหลักประกัน ลูกค้าสามารถนำเงินที่ได้ไปลงทุนโดยไม่จำเป็นต้องขายอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ
สินเชื่อนี้เหมาะสำหรับลูกค้ากลุ่มมั่งคั่งชาวไทยที่นิยมสะสม ‘อสังหาริมทรัพย์’ มากกว่าสินทรัพย์ทางการเงิน เนื่องจากคนไทยมีความเชื่อว่าอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะที่ดิน มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในระยะยาว เพราะเป็นทรัพยากรที่มีจำกัด อย่างไรก็ตาม ข้อด้อยสำคัญของอสังหาริมทรัพย์คือขาดสภาพคล่องในระยะสั้น แม้ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้น แต่หากไม่นำไปขายหรือใช้งานก็เปรียบเสมือนเงินสด หรือโอกาสที่ถูกแช่ไว้โดยไม่ได้สร้างมูลค่าเพิ่ม
ยิ่งไปกว่านั้นตั้งแต่มีการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง กลุ่มผู้ถือครองอสังหาริมทรัพย์เริ่มมองหาวิธีบริหารจัดการสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะที่ดินรกร้างที่ถูกจัดเก็บภาษีในอัตราที่ค่อนข้างสูง อันเป็นผลมาจากราคาประเมินและฐานภาษีที่มีการปรับเพิ่มขึ้นทุกๆ 3 ปีในอัตรา 0.3% และสูงสุดไม่เกิน 3% การใช้ Property-Backed Loan จึงกลายเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่อง พร้อมสร้างโอกาสในการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลูกค้า SCB PRIVATE BANKING สามารถเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์หรือหลักทรัพย์ ให้เป็นเงินลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินภายในกลุ่ม SCBX โดยมุ่งหวังให้โอกาสรับผลตอบแทนการลงทุนสูงกว่าต้นทุนทางการเงิน ดังรูป
ในทุกๆ ปีโลกแห่งการลงทุนมีทั้งโอกาสและความท้าทายรอเราอยู่เสมอ นอกจากการกระจายการลงทุนไปยังหลากหลายสินทรัพย์ทั่วโลกแล้ว การเปิดรับเครื่องมือการลงทุนในรูปแบบใหม่ผ่านการทำ Wealth Lending สินเชื่อเพื่อการลงทุน ซึ่งเปิดโอกาสให้สำหรับลูกค้ามั่งคั่ง Private Banking เท่านั้น เป็นการเพิ่มพลังเงินลงทุนผ่าน Lombard Loan และ Property-Backed Loan ก็นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจศึกษาหาโอกาสเช่นกัน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ scb.co.th/th/personal-banking/stories/grow-your-wealth/wealth-lending-opportunities/
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- การลงทุนหรือใช้บริการที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีความซับซ้อน มีความแตกต่างจากการลงทุนหรือใช้บริการผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนทั่วไป ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนทำการลงทุน
หมายเหตุ: ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ SCB PRIVATE BANKING Service Center 0 2777 7799