แนวคิดคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป ทั้ง GenY และ Gen Z มองหาสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แม้ราคาแพงก็ยอมจ่าย จุดประกายให้ ‘วัตสัน’ ยกทัพสินค้ารักษ์โลกวางขายผ่าน Greener Store มั่นใจปีนี้อย่างไรก็โต 2 ดิจิต ย้ำเศรษฐกิจไม่มีผลกับสินค้าสุขภาพและความงาม เพราะอย่างไรผู้หญิงก็ต้องดูดีทุกวัน
พสิษฐ์ มั่นคงขันติวงศ์ กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย กล่าวว่า แนวทางการดำเนินงานของวัตสัน ยังเน้นขยายการเติบโตทางธุรกิจ ควบคู่ไปกับความยั่งยืน จึงได้เปิดตัวร้านค้าภายใต้แนวคิด ‘Greener Store Framework’ ประเดิมสาขาแรกที่สยามสแควร์ ซึ่งถือเป็นต้นแบบร้านค้าปลีกยั่งยืน
เริ่มจากการเลือกใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดใช้พลังงาน โดยการติดแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา และเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้าผ่านแคมเปญ ‘ปั่น รักษ์ โลก’ ให้ลูกค้าปั่นจักรยานแล้วจะกลายเป็นพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้ในการชาร์จโทรศัพท์ ซึ่งจะได้รับส่วนลดสำหรับใช้จ่ายที่ร้านวัตสัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ชิ้นที่ 2 ราคา 1 บาท ได้ผล! ‘Watsons’ เล็งจัดถี่ขึ้น พร้อมดันลูกค้าขึ้นระดับอีลิท เพราะจ่ายมากกว่าลูกค้าทั่วไป 4.9 เท่า
- PM2.5 ปะทุ ทำ ‘เครื่องฟอกอากาศ’ ขายดีในช่วง Easy e-Receipt ส่วน Gen Y เน้นสวยฉ่ำ ‘เครื่องสำอางและน้ำหอม’ จึงขายดี
- เมื่อผู้หญิงไทยไม่หยุดสวย ตลาดความงามไทยจึงกลับมาเติบโต ‘L’Oréal Thailand’ เชื่อการถอดหน้ากากจะทำให้ตลาดกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
เป้าหมายของเราต้องการเปิดสาขาคอนเซปต์ ‘Greener Store’ ราวๆ 10 แห่ง แต่ก็ต้องพิจารณาจากทำเลที่มีทราฟฟิกหนาแน่น ซึ่งจุดเด่นของร้านดังกล่าวจะแตกต่างจากร้านสาขาอื่นๆ ทั้งวัสดุการตกแต่งและมีสินค้ารักษ์โลกจำนวนมาก เราเชื่อว่าจะสามารถตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี
“จากการสำรวจจะเห็นว่า ทั้ง Gen Y และ Gen Z ค่อนข้างให้การตอบรับกับสินค้ารักษ์โลก ไม่ค่อยสนว่าราคาจะแพงหรือไม่ แต่สนใจเรื่องสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากว่า และแม้สินค้ากลุ่มนี้จะมีราคาสูงกว่าสินค้าปกติก็ยอมจ่าย” กรรมการผู้จัดการ วัตสัน ประเทศไทย ย้ำ
พร้อมกล่าวต่อไปว่า จากนี้ไปวัตสันจะเพิ่มสัดส่วนสินค้ารักษ์โลกมากขึ้น จากปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์อยู่ 5,000 รายการ ในทุกสาขา ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่เราจะขยายต่อไปเรื่อยๆ โดยได้เปิดโอกาสให้ทั้ง Own Brand และแบรนด์รายเล็กๆ นำสินค้ารักษ์โลกเข้ามาจำหน่ายในร้าน
นอกจากนี้ยังเดินหน้าต่อในกลยุทธ์ O+O การช้อปปิ้งแบบไร้รอยต่อ พร้อมจัดแคมเปญโปรโมเชื่อม หรือเรียกง่ายๆ ว่าโปรโมชันที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อการช้อปปิ้งออนไลน์และออฟไลน์ให้กับสมาชิก ต้องยอมรับว่าโปรโมชันมีส่วนช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ จนทำให้วัตสันเพิ่มสมาชิกได้มากกว่า 9 ล้านคนแล้ว และสามารถใช้เป็นเครื่องมือนำไปต่อยอดวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าได้อย่างตรงจุด
ขณะเดียวกัน แม้วันนี้วัตสันจะมีสาขาครบ 77 จังหวัดแล้ว แต่ตลาดยังมีช่องว่างอีกมาก จากการขยายตัวของจำนวนประชากร แม้ผู้คนจะระมัดระวังค่าใช้จ่าย แต่ถ้ามองลึกลงไป คนจะเลือกประหยัดในส่วนของสินค้าลักชัวรีและสินค้าแฟชั่นมากกว่า ไม่เหมือนกับสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามจะเป็นเซกเมนต์สุดท้ายที่คนจะไม่ซื้อ เพราะอย่างไรผู้หญิงก็ยังเลือกดูแลสุขภาพให้ดูดีอยู่เสมอ
เห็นได้จากยอดซื้อต่อบิลที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสกินแคร์ จึงเป็นเหตุผลว่า ในปีนี้วัตสันจะลงทุนขยายสาขาใหม่ๆ ไปในจังหวัดที่ไม่เคยไป เบื้องต้นวางแผนไว้จะเปิด 50 สาขาต่อปี ควบคู่ไปกับการรีโนเวตร้านให้ทันสมัยมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมรายได้ในปีที่ผ่านมาวัตสันเติบโต 2 ดิจิต ปี 2567 อยากจะโต 2 ดิจิตเหมือนเดิม ซึ่งในไตรมาสแรกที่ผ่านมาก็เติบโตตามเป้าหมาย