วันนี้ (13 มกราคม) วทันยา วงษ์โอภาสี หรือมาดามเดียร์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งในขณะนี้ว่า ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐทุกจังหวัดให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาและช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาภัยแล้ง ทั้งด้านอุปโภคบริโภคและด้านการเกษตร โดยประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาว และพร้อมทำงานคู่ขนาน รวมถึงให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในทุกมิติ
ขณะเดียวกัน ในส่วนของรัฐบาล โดยการนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน และดำเนินการแก้ปัญหาในทุกมิติตามแผนระยะสั้นและระยะยาว มีการบูรณาการการทำงานของทุกกระทรวงเข้าด้วยกัน และล่าสุด มีการตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจและแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาวิกฤตน้ำ ซึ่งกําหนดให้มีกองอํานวยการน้ําแห่งชาติ เป็นองค์กรภายใต้ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจฯ มี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการ และได้สั่งการให้เร่งหาแนวทางบรรเทาและควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยต้องผนึกกําลังทุกหน่วยงาน บูรณาการทํางานร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อน ลดความเสียหายให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทั่วถึงและทันเวลา
สำหรับมาตรการระยะสั้นนั้น รัฐบาลเน้นไปที่การบรรเทาความเดือดร้อนในพื้นที่ประสบภัย โดยประชาชนต้องมีน้ำกินน้ำใช้อย่างเร่งด่วน มีการสั่งการให้ขุดบ่อบาดาลทั่วประเทศจำนวนกว่า 500 บ่อ เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ควบคุมการปลูกพืชฤดูแล้ง ควบคุมการลำเลียงน้ำ รณรงค์การใช้น้ำอย่างประหยัด ซ่อมแซมระบบประปา ฯลฯ
ส่วนแผนระยะยาวจะเดินตามแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพื่อวางแผนการใช้น้ำอย่างมั่งคง ยั่งยืน แก้น้ำแล้ง-น้ำท่วมซ้ำซาก โดยมีกรอบใหญ่ๆ 6 ด้าน คือ 1. การจัดการน้ำอุปโภคบริโภค 2. การสร้างความมั่นคงของน้ำภาคการผลิต 3. การจัดการน้ำท่วมและอุทกภัย 4. การจัดการคุณภาพน้ำและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ 5. การอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าต้นน้ำที่เสื่อมโทรมและป้องกันการพังทลายของดิน และ 6. การบริหารจัดการ ซึ่งทั้ง 6 กรอบ จะเป็นแนวทางให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินไปตามแผนเดียวกันทั้งหมด ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างยั่งยืน
ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำเค็มนั้นได้มีการปรับแผนลำเลียงน้ำจากฝั่งตะวันตก ซึ่งมีปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำฯ มากกว่าระบายผ่านแม่น้ำแม่กลองมาช่วยเหลือในพื้นที่ของแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น โดยมีการทำงานร่วมกันของการประปานครหลวง กรมชลประทาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะช่วยในการรักษาคุณภาพน้ำในการผลิตน้ำประปาแล้ว ยังช่วยผลักดันน้ำเค็มที่รุกล้ำเข้ามาของแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย
“ในฐานะที่เป็นนักการเมือง ต้องมีหน้าที่ในการดูแลปัญหาของประชาชน จะนำปัญหาของประชาชนมาสะท้อนให้รัฐบาลได้รับทราบ ขณะเดียวกัน ในฐานะที่เป็นพรรครัฐบาล จะรายงานสิ่งที่รัฐบาลได้ดำเนินการให้ประชาชนได้รับทราบเช่นกัน” วทันยากล่าวทิ้งท้าย
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล