วอร์เรน บัฟเฟตต์ กำลังจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่อีกครั้ง ก่อนที่จะก้าวลงจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของ Berkshire Hathaway ในช่วงสิ้นปีนี้ โดย The Wall Street Journal รายงานเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (30 กันยายน) ว่า Berkshire กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการ OxyChem ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจปิโตรเคมีของ Occidental Petroleum ด้วยมูลค่าประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
หากดีลนี้สำเร็จลุล่วง จะถือเป็นการเข้าซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดของ Berkshire ในรอบกว่า 3 ปี นับตั้งแต่การซื้อบริษัทประกัน Alleghany ในปี 2022 มูลค่า 1.16 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นการนำกองเงินสดสำรองมหาศาลของบริษัทที่มีอยู่สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3.44 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ออกมาลงทุนครั้งสำคัญ
สานต่อความสัมพันธ์-เดิมพันครั้งใหญ่ในธุรกิจพลังงาน
การเข้าซื้อ OxyChem ครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำและขยายการลงทุนครั้งใหญ่ของ Berkshire ใน Occidental Petroleum ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ปี 2019 เมื่อบัฟเฟตต์ได้ให้เงินทุนสนับสนุน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ แก่ Occidental เพื่อใช้ในการเข้าซื้อกิจการ Anadarko Petroleum
ปัจจุบัน Berkshire Hathaway เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดใน Occidental Petroleum อยู่แล้ว โดยถือครองหุ้นในสัดส่วนถึง 28.2% คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ก่อนหน้านี้บัฟเฟตต์จะเคยกล่าวว่าจะไม่เข้าควบคุมกิจการ Occidental ทั้งหมด แต่การเจรจาซื้อหน่วยธุรกิจปิโตรเคมีโดยเฉพาะครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นอย่างสูงที่เขามีต่อสินทรัพย์และธุรกิจในเครือ Occidental
ปูทางสู่ยุคใหม่ภายใต้การนำของ Greg Abel
การตัดสินใจลงทุนครั้งใหญ่นี้ยังเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนผ่านที่สำคัญของ Berkshire Hathaway เนื่องจากบัฟเฟตต์ วัย 95 ปี มีกำหนดจะก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ในสิ้นปีนี้ และส่งมอบตำแหน่งให้กับ เกร็ก เอเบล
ที่น่าสนใจคือ เกร็ก เอเบล มีพื้นฐานและ ความเชี่ยวชาญอย่างสูงในอุตสาหกรรมพลังงาน จากการที่เคยดำรงตำแหน่ง CEO ของ Berkshire Hathaway Energy มาอย่างยาวนาน การเข้าซื้อ OxyChem จึงถูกมองว่าไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ยังเป็นการวางรากฐานและเตรียมสินทรัพย์ที่สอดคล้องกับความเชี่ยวชาญของผู้ที่จะมารับตำแหน่งผู้นำคนต่อไปได้อย่างลงตัว
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีข่าวดีลยักษ์ออกมา แต่ราคาหุ้นของ Occidental Petroleum กลับปรับตัวลดลง 1.8% ในการซื้อขายเมื่อวันอังคาร ซึ่งอาจสะท้อนถึงความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการที่บริษัทต้องขายธุรกิจทำกำไรออกไป
อ้างอิง: