สำนักข่าว AP รายงานว่า การประมูลโต๊ะอาหารการกุศลเพื่อร่วมรับประทานอาหารกับวอร์เรน บัฟเฟตต์ ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม และมีผู้สนใจเสนอราคาประมูลที่มูลค่ามากกว่า 19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 640 ล้านบาท นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่ยืนยันความฮอตของบัฟเฟตต์ได้เป็นอย่างดี
สำหรับโต๊ะอาหารการกุศลนี้เป็นงานรับประทานอาหารกลางวันร่วมกับบับเฟตต์ ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 21 และถือเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับคุณปู่มหาเศรษฐีนักลงทุนในวัย 91 ปี
รายงานระบุว่าราคาประมูลซึ่งเสร็จสิ้นในช่วงคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 มิถุนายน) ทำสถิติสูงสุดรอบใหม่ โดยสูงเกินกว่าสถิติสูงสุดครั้งก่อนที่ จัสติน ซัน นักธุรกิจด้านคริปโตเคอร์เรนซีชาวจีนทำไว้ที่ 4.57 ดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2019 ซี่งผู้ชนะประมูลในปีนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายชื่อออกมา
รายได้ทั้งหมดจากการประมูลจะมอบให้กับมูลนิธิ Glide องค์การการกุศลในซานฟรานซิสโก ที่มุ่งให้ความช่วยเหลือคนยากจน คนเร่ร่อน และผู้ติดยาเสพติด ด้วยการมอบอาหาร ที่พัก จัดฝึกอบรมทักษะ การตรวจการติดเชื้อเอชไอวีและไวรัสตับอักเสบ ตลอดจนโครงการสำหรับเด็กๆ
ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นนักลงทุนที่มีวิสัยทัศน์ในการมองทิศทางเศรษฐกิจได้ค่อนข้างไกลและแม่นยำแล้ว ปู่บัฟเฟตต์ยังได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีใจบุญที่ไม่เคยพลาดโอกาสในการเข้าร่วมงานการกุศลหรือบริจาคเงินช่วยเหลือต่างๆ โดยที่ผ่านมาซีอีโอของ Berkshire Hathaway สามารถระดุมเงินให้กับมูลนิธิ Glide ได้มากกว่า 53.2 ล้านดอลลาร์ในการประมูล 21 ครั้ง ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปี 2000
ขณะที่โฆษก eBay ที่ทำหน้าที่จัดการประมูลครั้งนี้ระบุว่า มื้ออาหารกลางวันเพื่อการกุศลครั้งนี้นับเป็นครั้งที่แพงที่สุดที่บริษัทประมูลขายได้ผ่านเว็บไซต์ของบริษัท
วันเดียวกันทางเว็บไซต์ Yahoo Finance เปิดเผยกลยุทธ์การลงทุนที่บัฟเฟต์ระบุว่าเป็นหนึ่งในวิธีการใช้เงินลงทุนอย่างชาญฉลาด นั่นคือการซื้อคืน หรือ Buyback โดยบัฟเฟตต์มักจะบอกกับนักลงทุนของ Berkshire เสมอว่า เมื่อใดก็ตามที่หุ้นสามารถซื้อได้ต่ำกว่ามูลค่าของธุรกิจ เมื่อนั้นการซื้อคืนก็อาจเป็นวิธีการใช้เงินสดได้ดีที่สุด และการซื้อหุ้นคืนถือได้ว่าเป็น ‘เงินปันผลที่ซ่อนอยู่’
รายงานอธิบายว่า โปรแกรมซื้อหุ้นคืนนอกจากจะลดจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้ว ยังทำให้หุ้นที่เหลืออยู่ในตลาดมีค่ามากขึ้น อีกทั้งยังหมายความว่ารายได้ประจำปีของบริษัทจะเป็นของนักลงทุนกลุ่มเล็กๆ
ยิ่งไปกว่านั้นการซื้อหุ้นคืนยังมีข้อดีอื่นๆ อีก เช่น มีผลทางภาษีมากกว่าเงินปันผล เพราะผู้ถือหุ้นได้รับมูลค่าโดยไม่ต้องรับเงินสด และโครงการซื้อหุ้นคืนเหล่านี้ยังเป็นการส่งสัญญาณของความมั่นใจจากทีมผู้บริหารของบริษัทอีกด้วย
ทั้งนี้ โปรแกรมเหล่านี้ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในปี 2021 บริษัท S&P 500 รวมกันใช้เงินกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในการซื้อหุ้นคืน ส่งผลให้จำนวนหุ้นรวมของตลาดหุ้นลดลง 4% และทำให้การซื้อคืนอาจรุนแรงพอๆ กับปีนี้เมื่อหุ้นราคาถูกลง
สำหรับการซื้อหุ้นคืนที่โดดเด่นในปีนี้มีของ Apple, ExxonMobil และ Union Pacific
อ้างอิง:
- https://apnews.com/article/warren-buffett-new-york-city-omaha-5805bbcd0bacb5c7930d6d71dfaa2247
- https://finance.yahoo.com/news/warren-buffetts-portfolio-full-buyback-120000328.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP