เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในสหรัฐฯ กำลังเตรียมพร้อมรับมือความเป็นไปได้ที่อาจเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.617 หรือ Delta ที่พบครั้งแรกในอินเดีย หลังมองภาพสะท้อนจากอังกฤษที่กำลังประสบปัญหาการระบาดของโควิดสายพันธุ์ใหม่ หลังเพิ่งประกาศความสำเร็จในการฉีดวัคซีนให้ประชาชนและคลายข้อจำกัดเกี่ยวกับกิจกรรมต่างๆ ในช่วงล็อกดาวน์ไปเมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน
ปัจจุบันสหราชอาณาจักรพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ Delta เพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจขัดขวางแผนการของรัฐบาล บอริส จอห์นสัน ในการเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 21 มิถุนายนนี้ โดย แมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขสหราชอาณาจักร เผยก่อนหน้านี้ว่า ไวรัสสายพันธุ์ B.1.617 แพร่ระบาดได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมราว 40% ซึ่งนักระบาดวิทยากังวลว่าการกลายพันธุ์ของไวรัสอาจสร้างสายพันธุ์ที่หลบหลีกวัคซีนได้
ด้าน ดร.แอนโทนี เฟาชี ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขของประธานาธิบดี โจ ไบเดน เตือนในระหว่างบรีฟทีมรับมือโรคระบาดของทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ว่า ถึงแม้ไวรัสสายพันธุ์ Delta จะมีสัดส่วนเพียง 6% ของเคสติดเชื้อที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ แต่ตัวเลขอาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“เราไม่อาจปล่อยให้มันเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ได้” เฟาชีกล่าว โดยยกตัวอย่างสถานการณ์ในสหราชอาณาจักร ขณะที่ไบเดนตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรผู้ใหญ่ 70% ภายในวันที่ 4 กรกฎาคม หรือวันชาติสหรัฐฯ ซึ่งแม้ปัจจุบันสหรัฐฯ ได้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนเกิน 300 ล้านโดสแล้ว แต่ช่วงหลังพบว่ามีการกระจายวัคซีนช้าลง
ภาพ: Sarah Silbiger-Pool / Getty Images
พิสูจน์อักษร: นัฐฐา สอนกลิ่น
อ้างอิง: