วันนี้ (24 กรกฎาคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมทีมงาน แถลงแผนอพยพ 5 โรงพยาบาลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า รับทราบการโจมตีที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกโกรธและเศร้าสลด จากเหตุการณ์ที่กองกำลังกัมพูชาเปิดโจมตีอย่างไร้มนุษยธรรม ที่โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุรินทร์ และโรงพยาบาลกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ และพื้นที่พลเรือนในหลายพื้นที่ซึ่งไม่เพียงเป็นการคุกคามอธิปไตยของชาติ ยังเป็นการเหยียบย่ำคุณค่าความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นใหญ่หลวงเกินกว่าที่จะยอมรับได้ เพราะส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ถึง 35 ราย เสียชีวิต 11 ราย และมีทหารได้รับผลกระทบ 8 นาย
กระทรวงสาธารณสุขขอประณามการกระทำอย่างรุนแรง ต่อการโจมตีโรงพยาบาลและประชาชนชาวไทย ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดกฏหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และกฎหมายเจนีวาอย่างร้ายแรง ซึ่งหนึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิตมีเด็กอยู่ด้วย ถือเป็นการกระทำที่น่าละอาย ไม่อาจให้อภัยได้อย่างที่สุด
“โรงพยาบาลเป็นที่ปลอดภัยเสมอ การจงใจยิงอาวุธใส่สถานพยาบาล ถือเป็นการกระทำที่ข้ามเส้นแบ่งความเป็นมนุษย์ ของมาตรา 18 แห่งอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 4 ระบุไว้ชัดเจน ว่าโรงพยาบาลและพลเรือนจะต้องไม่ถูกโจมตี ไม่ว่าจะสถานการณ์ใดๆ ต้องได้รับการยกเว้นจากผู้ขัดแย้งตลอดเวลา การกระทำของกัมพูชาในครั้งนี้ ถึงเข้าข่าย การละเมิดอย่างร้ายแรง และถือเป็นอาชญากรรมสงครามอย่างชัดเจน ผู้สังเกตการณ์และผู้ลงมือจะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์”
โดย กระทรวงสาธารณสุขขอเรียกร้อง ดังนี้
- รัฐบาลกัมพูชาต้องแสดงความรับผิดชอบ และหยุดการกระทำโดยทันที
- รัฐบาลกัมพูชาต้องร่วมเยียวยาความสูญเสีย
ทั้งนี้ ความปรารถนาสูงสุดของกระทรวงสาธารณสุข คือ การหยุดยั้งความโหดเหี้ยมนี้ และเรียกร้องให้กัมพูชายุติการกระทำอันเป็นอาชญากรรมสงคราม แล้วกลับมาอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสีย ขอให้คำมั่นกับประชาชนว่า กระทรวงสาธารณสุขจะระดมสรรพกำลังเพื่อรักษาผู้บาดเจ็บอยู่ดีที่สุด และรัฐบาลไทยจะดำเนินทุกวิถีทางเพื่อปกป้องเกียรติภูมิของชาติและเรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนไทยทุกคน