วันนี้ (22 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการกำหนดวันแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยระบุว่า ขึ้นอยู่กับการกำหนดของรัฐบาล หลังจากวันที่ 24 กันยายน ที่จะเข้าถวายสัตย์ฯ และประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นัดพิเศษ ก็จะแจ้งมายังสภาฯ ว่ารัฐบาลพร้อมที่จะแถลงนโยบายวันใด
โดยเมื่อรัฐบาลแจ้งมาแล้ว สภาฯ ก็จะหารือวิป 3 ฝ่าย เพื่อกำหนดวันและชั่วโมงในการอภิปราย ซึ่งคาดว่า น่าจะเป็นสัปดาห์หน้าต้นหรือปลายสัปดาห์ ซึ่งสภาฯ พร้อมที่จะแจ้งให้สมาชิกรัฐสภาทราบว่า จะแถลงนโยบายวันไหน และต้องแจ้งล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3 วัน เพราะรัฐบาลต้องส่งนโยบายที่แถลงมาให้สมาชิกได้อ่านก่อนวันประชุม
วันมูหะมัดนอร์ระบุว่า ถ้าหากทุกอย่างพร้อม ไม่มีอะไรติดขัด อาจจะเป็นวันที่ 1-2 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ โดยจะใช้เวลาทั้ง 2 วัน เท่ากับรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ทั้งหมดก็ต้องขึ้นอยู่กับข้อตกลงของวิปทั้ง 3 ฝ่าย
ส่วนเวลาอภิปรายที่ฝ่ายค้านมีเสียงมากกว่าฝ่ายรัฐบาลจะลงตัวหรือไม่นั้น วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า เดี๋ยววิปก็จัดการได้ แต่ต้องมีการประชุมหารือเพื่อหาข้อตกลง และต้องรอให้รัฐบาลแจ้งความพร้อมในการแถลงนโยบายมาก่อน ถ้าทุกฝ่ายมีความพร้อมก็คงจะเรียบร้อย
ไม่มีข้อบังคับเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ หลังรัฐบาลพลิกขั้ว
สำหรับกรณีที่ สส.พรรคภูมิใจไทย เรียกร้องให้มีการเปลี่ยนตัวประธานสภาฯ หลังจากมีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลแล้ว ซึ่งพรรคประชาชาติและพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน วันมูหะมัดนอร์ระบุว่า เก้าอี้ของประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ นั้น เราไม่เคยมีกำหนดในรัฐธรรมนูญหรือข้อบังคับว่า จะเปลี่ยนไปตามรัฐบาล เพราะประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพรรคการเมือง แต่เป็นตำแหน่งที่เป็นอิสระ
“ถ้าดูประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลสักกี่ครั้งก็แล้วแต่ ประธานสภาฯ ก็ไม่ได้เปลี่ยน ไม่ได้หมายความว่าประธานสภาฯ หรือรองประธานสภาฯ อยากจะเปลี่ยน แต่ก็ต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ” วันมูหะมัดนอร์กล่าว
สำหรับข้อกังขาที่อาจจะมีตามมา เนื่องจากเป็นประธานสภาฯ ซึ่งอยู่ในซีกฝ่ายค้านนั้น วันมูหะมัดนอร์ชี้ว่า ต้องดูหน้างาน หากทำได้ก็ทำไป ถ้าทำไม่ได้ก็ว่าไป