วันนี้ (22 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณี ไชยา พรหมา รองประธานสภาฯ คนที่ 1 สั่งปิดการประชุม ก่อนที่จะมีการเสนอญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ MOU 44 ของ สฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส. กระบี่ พรรคภูมิใจไทย
วันมูหะมัดนอร์ระบุว่า เมื่อเช้าจากที่ได้สอบถามเลขาธิการสภาฯ และรองเลขาธิการสภาฯ ทราบว่า เป็นการประสานงานที่ผิดพลาด เข้าใจว่า เมื่อจบการรับทราบรายงานแล้ว จะเป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว แต่กรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ยังไม่พร้อมที่จะรายงาน ก็สามารถที่จะเข้าญัตติด่วนได้ แต่เมื่อวาน (21 ส.ค.68) มีการประสานงานระหว่างฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล กับหน้าบัลลังก์ผู้ทำหน้าที่ประธาน อาจจะเข้าใจผิดกันว่า หมดวาระแล้ว
จึงปิดประชุม ซึ่งไม่มีการแจ้งให้ประธานในที่ประชุมทราบล่วงหน้าว่า จะดำเนินการเรื่องอะไร
“ประธานก็อาจจะเข้าใจว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว เพราะเรื่องที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว ก็ไม่มีรายงานเข้ามา ดังนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิดในการประสานงาน หากเลื่อนญัตติขึ้นมาพิจารณาก็ไม่มีปัญหาอะไร ทำให้ครั้งนี้เป็นบทเรียนว่า ต้องมีการประสานงานที่ชัดเจนจากวิปฝ่ายรัฐบาลและวิปฝ่ายค้าน” วันมูหะมัดนอร์กล่าว
สื่อมวลชนถามว่า ไชยาเป็นผู้ไปรับหนังสือกรณีดังกล่าวจากผู้ชุมนุมที่บริเวณหน้าอาคารรัฐสภาด้วยตนเอง จะสำคัญผิดเรื่องนี้ได้อย่างไร วันมูหะมัดนอร์กล่าวว่า การรับหนังสือก็เป็นส่วนหนึ่ง ส่วนวาระการประชุมสภาฯ ก็เป็นไปตามระเบียบวาระ และย้ำว่า ขณะนั้นไม่มีวาระรายงานผลการศึกษาของกรรมาธิการฯ แล้ว
“หากในช่วงนั้นมีการเสนอญัตติเรื่องชายแดน หรือ MOU ก็คงจะพิจารณา แต่จากที่ทราบคือ การประสานงานยังไม่มีความชัดเจน ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความมั่นคง ก็ต้องมีการประชุมลับ ฉะนั้น ขอให้วิปทั้งสองฝ่ายประสานงานกันอย่างชัดเจน วันพฤหัสบดี สัปดาห์หน้า ก็สามารถเสนอเข้ามาได้ แต่ถ้าไม่ประสานงานกัน ผมก็เสียดาย มองแล้วเป็นญัตติที่มีประโยชน์” วันมูหะมัดนอร์กล่าว
ประธานสภาผู้แทนราษฎรยังเชื่อว่า การสั่งปิดประชุมโดยไชยา ซึ่งมาจากพรรคเพื่อไทย จะเป็นเกมการเมือง เพราะไชยาเป็นคนมีเหตุผล มีความเป็นอิสระ เคร่งครัดต่อการปฏิบัติหน้าที่ อาจจะเข้าใจผิดจริงๆ เพราะเมื่อทำหน้าที่ตรงนั้น ไม่มีเรื่องแล้ว ก็เห็นสมควรให้ปิด ไม่ได้รับคำสั่งให้ปิดประชุมสภาฯ หากจะผิดพลาดอย่างไรก็เป็นความเข้าใจผิด ตนเองในฐานะประธานสภาฯ ก็ต้องขออภัย
อย่างไรก็ตาม วันมูหะมัดนอร์ย้ำว่า ในการประชุมสภาฯ ครั้งหน้า ต้องแก้ไขเรื่องนี้ให้ดียิ่งขึ้น เช่น กองการประชุมต้องประสานงานให้กับผู้ทำหน้าที่ประธานในการประชุมให้ทราบทุกระยะ ซึ่งตนเองเชื่อมั่นในการทำหน้าที่ของไชยาว่ามีความเป็นกลาง