ตลาดหุ้น Wall Street ของสหรัฐฯ กลับมาคึกคักอีกครั้งเมื่อวานนี้ (15 มิถุนายน) หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา ค่อนข้างเคลื่อนไหวอย่างซบเซา โดยตลาดสามารถกลับมาปิดตลาดในแดนบวกได้อีกครั้งในรอบสัปดาห์นี้
โดยดัชนีอุตสาหกรรม Dow Jones ปรับตัวเพิ่มขึ้น 303.70 จุด หรือ 1.00% ปิดที่ 30,668.53 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 54.51 จุด หรือ 1.46% ปิดที่ 3,789.99 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 270.81 จุด หรือ 2.50% ปิดที่ 11,099.16 จุด
โดยในช่วงเช้าของการเปิดตลาด หุ้นใน Wall Street ค่อนข้างผันผวน ก่อนที่จะขยับตัวก้าวเข้ามาอยู่ในช่วงขาขึ้น หลัง เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ออกมายืนยันหนักแน่นว่า Fed พร้อมใช้ยาแรงในการจัดการเงินเฟ้อ ซึ่งหมายรวมถึงแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนกรกฎาคม
นอกจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว Fed ยังได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯในปีนี้สู่ระดับ 1.7% จากเดิมที่คาดไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.8% ในเดือนมีนาคม และคาดว่าจะขยายตัว 1.7% ในปี 2023
ขณะเดียวกัน Fed ยังคาดว่าเงินเฟ้อจะพุ่งแตะระดับ 5.2% ในสิ้นปีนี้ จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 4.3% และจะชะลอตัวสู่ระดับ 2.6% ในปี 2023 และ 2.2% ในปี 2024
ด้านราคาน้ำมันปรับตัวลดลงทันทีราว 3 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อวานนี้ เนื่องจากหลายฝ่ายกังวลว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะทำให้เศรษฐกิจโลกเผชิญภาวะถดถอย ซึ่งส่งผลต่อความต้องการใช้น้ำมันในตลาด
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 3.62 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 115.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 2.66 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 118.51 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันที่ลดลงยังได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ทำให้ฉุดราคาน้ำมัน เพราะค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่นๆ อีกทั้งยังได้ปัจจัยฉุดราคาน้ำมันเพิ่มเติมจากรายงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ระบุว่า กำลังการผลิตน้ำมันดิบในประเทศ เพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ยอดรวมสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 12 ล้านบาร์เรลต่อวัน สูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2020
ด้านราคาทองคำขยับขึ้นมาอยู่ในแดนบวกได้สำเร็จ หลังขยับปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยหลัง Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาทองคำในตลาด COMEX งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 6.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,819.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำในตลาด Futures ขยับเพิ่มขึ้น 0.3% มาอยู่ที่ 1,819 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงทันทีหลัง Fed ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีลดลง 0.18% มาอยู่ที่ 3.301% หนึ่งวันหลังแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีที่ 3.49% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี ซึ่งอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Fed มากกว่า ลดลงกว่า 0.22% มาอยู่ที่ 3.216%
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2022/06/14/stock-market-futures-open-to-close-news.html
- https://www.cnbc.com/2022/06/15/oil-prices-fall-as-expected-us-interest-rate-hike-looms.html
- https://www.cnbc.com/2022/06/15/gold-markets-federal-reserve-interest-rate-inflation-recession.html
- https://www.cnbc.com/2022/06/15/us-treasury-yields-pull-back-ahead-of-key-fed-meeting.html
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP