ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน ยืนยันว่า เมืองบัคมุตซึ่งถือเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่ดุเดือดที่สุดในสงครามรัสเซีย-ยูเครนตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ยังไม่ถูกกองทัพรัสเซียยึดครองแต่อย่างใด หลังอีกฝ่ายออกมาอ้างสิทธิ์ในการควบคุมเหนือดินแดนดังกล่าว เมื่อวานที่ผ่านมา (21 พฤษภาคม)
ผู้นำยูเครนชี้แจงประเด็นดังกล่าวขณะกำลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ โดยยืนยันว่าสิ่งที่ เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มแวกเนอร์ที่มาเข้าร่วมสนับสนุนกองทัพรัสเซียในการสู้รบกับกองกำลังยูเครน ระบุว่า ขณะนี้กองทัพรัสเซียสามารถยึดครองบัคมุตได้ทั้งเมืองแล้วนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
โดยเซเลนสกียังได้เปรียบเทียบเมืองบัคมุตและเมืองฮิโรชิมาที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูในช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า เมืองบัคมุตจะได้รับการเยียวยาฟื้นฟูไม่ต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่เมืองฮิโรชิมาแห่งนี้
“ตอนนี้ฮิโรชิมาสร้างและฟื้นฟูเมืองของพวกเขาขึ้นมาใหม่ และพวกเราเองก็ฝันที่จะสร้างและฟื้นฟูเมืองของเราขึ้นมาใหม่เช่นเดียวกัน”
นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยต่างมองว่าบัคมุตเป็นเพียงเมืองเล็กๆ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ไม่ได้มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์มากขนาดนั้นสำหรับกองทัพรัสเซีย แต่การประกาศชัยชนะหลังยึดครองเมืองนี้ได้สำเร็จนั้นจะเป็นชัยชนะเชิงสัญลักษณ์ที่สำคัญต่อกองทัพรัสเซียอย่างมาก หลังจากการสู้รบที่ยืดเยื้อยาวนานมาเกือบ 1 ปี 3 เดือนแล้ว
ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เซเลนสกีเดินทางออกประเทศบ่อยครั้งขึ้นอย่างมาก เพื่อเดินสายหาแรงสนับสนุนจากบรรดาประเทศพันธมิตรต่างๆ ทั่วโลกในการป้องปรามและรับมือกับการรุกรานของกองทัพรัสเซียที่ขอบเขตความเสียหายและการสูญเสียยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ภาพ: Brendan Smialowsky / AFP
อ้างอิง:
