วานนี้ (20 ธันวาคม) แหล่งข่าวของสำนักข่าวต่างประเทศเผยว่า ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ของยูเครน อาจเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อพบประธานาธิบดีโจ ไบเดน และสภาคองเกรสสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ (21 ธันวาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะถือเป็นการออกนอกประเทศครั้งแรก นับตั้งแต่สงครามรัสเซีย-ยูเครนเปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
แต่อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่มีการยืนยันเรื่องการเดินทางออกนอกประเทศของเซเลนสกีในครั้งนี้แต่อย่างใด โดยหลายฝ่ายคาดว่าหากการเดินทางเยือนสหรัฐฯ เกิดขึ้นจริง อาจเต็มไปด้วยข้อจำกัดและความกังวลเรื่องความปลอดภัย รวมถึงอาจมีการปรับเปลี่ยนแผนการเดินทางในระยะเวลาอันสั้นอีกด้วย
ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 เดือนที่ผ่านมาที่ไฟของสงครามปะทุขึ้นในยูเครน เซเลนสกียังไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศเลยสักครั้ง โดยผู้นำยูเครนคนนี้มักจะเป็นฝ่ายต้อนรับบรรดาผู้นำโลกที่เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนในยามศึกสงคราม เพื่อแสดงจุดยืนว่าตนเองและพันธมิตรต่างสนับสนุนและพร้อมยืนเคียงข้างยูเครนในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ อีกทั้งเซเลนสกีก็ยังใช้ช่องทางสื่อออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าร่วมงานอีเวนต์ระดับโลก เข้าร่วมการประชุมสภาของประเทศต่างๆ ผ่านวิดีโอลิงก์ เพื่อหาเสียงสนับสนุนยูเครนในประชาคมโลกอย่างจริงจัง
สหรัฐอเมริกาถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของยูเครน โดยทางการสหรัฐฯ ส่งมอบความช่วยเหลือทางด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ให้แก่ยูเครนมากถึง *1.851 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.42 แสนล้านบาท) นับตั้งแต่สงครามรุกรานยูเครนเปิดฉากขึ้นในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา (*ข้อมูลถึงวันที่ 20 พฤศจิกายน)
ด้านกองทัพสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า มีจำนวนสมาชิกกองทัพรัสเซียและกองทัพยูเครนชาติละ 1 แสนคนเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากสงครามความขัดแย้งในครั้งนี้ ขณะที่ยอดพลเรือนที่เสียชีวิตอยู่ที่ราว 40,000 คน ส่วนรายงานองค์การสหประชาชาติชี้ มีผู้ลี้ภัยราว 7.8 ล้านคนอพยพลี้ภัยออกนอกประเทศ นับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
แฟ้มภาพ: Ukrainian Presidency / Handout / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
