วานนี้ (26 ตุลาคม) กองกำลังนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซียได้ฝึกซ้อมครั้งใหญ่ ทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ ซึ่งรวมถึงการซ้อมยิงขีปนาวุธร่อน (Cruise Missile) และขีปนาวุธทิ้งตัว (Ballistic Missile) จำนวนหลายลูก จากหลายพื้นที่ อาทิ ทวีปแอนตาร์กติก ไปจนถึงคาบสมุทรคัมชัตคา ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซีย โดยถือเป็นการฝึกซ้อมครั้งแรกนับตั้งแต่เกิดสงครามยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
รัฐบาลเครมลินได้ออกแถลงการณ์ พร้อมเผยแพร่ภาพของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ที่เฝ้าติดตามชมการฝึกซ้อมจากห้องควบคุม โดยเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย รายงานต่อปูตินว่าการฝึกซ้อมของกองกำลังนิวเคลียร์ครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อจำลอง ‘การโจมตีด้วยนิวเคลียร์ครั้งใหญ่’ และตอบโต้การโจมตีด้วยนิวเคลียร์ภายในรัสเซีย
“ภายใต้การนำของวลาดิเมียร์ ปูติน วาระการฝึกถูกจัดขึ้นโดยมีกองกำลังป้องปรามเชิงยุทธศาสตร์ ทั้งภาคพื้นดิน ทะเล และทางอากาศ ซึ่งมีการยิงขีปนาวุธทิ้งตัวและขีปนาวุธร่อน” รัฐบาลเครมลินระบุ
การฝึกซ้อมดังกล่าวถูกจับตามองว่าเป็นการแสดงแสนยานุภาพด้านนิวเคลียร์ของรัสเซีย หลังประธานาธิบดีปูตินเคยประกาศคำขู่ที่จะใช้ทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันประชาชนและดินแดนของรัสเซีย โดยรวม 4 แคว้นใหม่ที่รัสเซียผนวกรวมมาจากยูเครนด้วย
ก่อนหน้านี้ปูตินและรัฐบาลเครมลินได้ย้ำเตือนถึงสถานการณ์ตึงเครียดในสงครามยูเครนว่าอาจบานปลายไปสู่การใช้อาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่กองทัพรัสเซียเริ่มตกเป็นฝ่ายถดถอยและถูกกองทัพยูเครนรุกคืบยึดคืนพื้นที่ต่างๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งจากมอสโกเกี่ยวกับการฝึกซ้อมของกองกำลังนิวเคลียร์ โดยระบุว่าเป็นการฝึกซ้อมภายใต้เงื่อนไขของสนธิสัญญา New START หรือสนธิสัญญาลดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย
ภาพ: Alexei Babushkin / SPUTNIK / AFP
อ้างอิง: