การประกาศระดมพลบางส่วนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เพื่อเสริมกำลังรบในสงครามยูเครน ก่อให้เกิดความวุ่นวายขึ้นภายในรัสเซีย หลังประชาชนในหลายเมืองพากันออกมาชุมนุมประท้วง ในขณะที่ชายวัยเกณฑ์ทหารจำนวนมากพยายามหาทางหนีออกจากประเทศทุกวิถีทาง
ตั๋วเครื่องบินเดินทางไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศที่ไม่ต้องใช้วีซ่า ขายหมดอย่างรวดเร็วและมีราคาพุ่งไปเกือบ 10 เท่า ส่วนสถานการณ์บริเวณชายแดนมีรถยนต์ต่อแถวยาวหลายกิโลเมตร เพื่อรอเดินทางออกจากรัสเซียไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น จอร์เจีย
สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนความหวาดกลัวของชาวรัสเซียในตอนนี้ โดยการประกาศระดมบางส่วนตามที่ปูตินกล่าวถึงนั้นคืออะไร? ส่งผลกับใคร? และจะมีผลอะไรต่อสงครามยูเครนที่รัสเซียกำลังเป็นฝ่ายถดถอยบ้าง
อะไรคือการระดมพล และการระดมพลบางส่วน?
- กฎหมายรัสเซียอนุญาตให้มีการระดมพล ในกรณีที่เกิดการรุกรานจากต่างชาติหรือการโจมตีรัสเซีย มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเตรียมพร้อมทางเศรษฐกิจและกองทัพของรัสเซียเพื่อทำสงคราม และหมายถึงการระดมทหารกองหนุน
- นี่เป็นครั้งแรกที่รัสเซียประกาศระดมพล นับตั้งแต่ที่กองทัพนาซีบุกสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1941
- เนื่องจากรัสเซียแสดงท่าทีมาตลอดว่า การรุกรานยูเครนนั้นเป็นเพียง ‘ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร’ ทำให้ยังไม่เคยมีการเสนอใช้มาตรการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำสงคราม แต่การสั่งระดมพลบางส่วนของปูตินได้เปลี่ยนแปลงท่าทีนี้
- ความแตกต่างระหว่างการประกาศระดมพลบางส่วนและการระดมพลทั่วไปคือ การระดมพลทั่วไปจะอนุญาตให้รัสเซียระดมทหารกองหนุนทั้งหมดกว่า 2 ล้านคนได้ ในขณะที่การระดมพลบางส่วนจะจำกัดเฉพาะกำลังสำรองบางกลุ่มหรือบางพื้นที่ของประเทศ
- ซึ่งกลุ่มที่ถูกเรียกระดมพลบางส่วน น่าจะหมายถึงกำลังสำรองที่ประจำการ หรือผู้ที่เพิ่งปลดประจำการจากกองทัพในช่วงไม่นานนี้ รวมถึงผู้มีประสบการณ์รบ
อะไรคือทหารกองหนุนของรัสเซีย?
- ข้อมูลตามเอกสาร ระบุว่ารัสเซียมีทหารกองหนุนเกินกว่า 2 ล้านคน รวมถึงอดีตทหารเกณฑ์ เจ้าหน้าที่ปลดเกษียณ และผู้ที่ออกจากการรับราชการในกองทัพ
- ราว 90% ของทหารกองหนุนเหล่านี้ไม่เคยได้รับการฝึกรบในรูปแบบใดๆ ส่วนผู้ที่เคยฝึกอาจผ่านมานานหลายสิบปีแล้ว
- เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย เคยกล่าวว่า กองทัพรัสเซียจะมีทหารกองหนุนมากถึง 25 ล้านคนหากมีการประกาศระดมพลเต็มรูปแบบ ซึ่งหมายความว่าชายและหญิงในวัย 18-60 ปีสามารถถูกเรียกเป็นกำลังสำรองได้ตามกฎหมายรัสเซีย
- ดารา แมสซิคอต ผู้เชี่ยวชาญด้านกองทัพรัสเซียจากบริษัท RAND Corporation ระบุว่า “ทหารกองหนุนรัสเซียจะไม่พร้อมรบ ทั้งหมดมันขึ้นอยู่กับสิ่งที่พวกเขาได้ทำในระหว่างเข้าประจำการและระยะเวลาในการประจำการ และทักษะเหล่านี้จะฝ่อไปตามกาลเวลาหากคุณไม่ใช้มัน”
ใครที่ถูกเรียกระดมพลบ้าง?
- จากที่ปูตินกล่าว การระดมพลบางส่วนของรัสเซียจะครอบคลุมแค่กำลังสำรองที่มีประสบการณ์ทางทหารที่เกี่ยวข้อง ส่วนนักศึกษาหรือทหารเกณฑ์อายุน้อยที่มีระยะเวลาประจำการ 12 เดือนจะไม่รวมในการระดมพล
- “เรากำลังพูดถึงการระดมพลบางส่วน นั่นคือเฉพาะพลเมืองที่อยู่ในกลุ่มทหารกองหนุน และเหนือสิ่งอื่นใด ผู้ที่เคยรับใช้ในกองทัพที่มีทักษะด้านการทหารและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้อง มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่จะถูกเกณฑ์ทหาร” ปูตินกล่าว
- ชอยกูกล่าวหลังการแถลงของปูตินว่า จะมีการระดมพลทหารกองหนุนจำนวนทั้งหมด 3 แสนนาย ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนทหารที่รัสเซียใช้ในการบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งมีประมาณ 1.9 แสนนาย
- ขณะที่กองทัพรัสเซียนั้นกำลังมองหาทหารกองหนุนที่เคยปฏิบัติหน้าที่ในกองทัพซึ่งต้องอาศัยทักษะเฉพาะและความเชี่ยวชาญ เช่น คนขับรถถัง ทหารช่าง และพลซุ่มยิงหรือสไนเปอร์
- อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ชี้ว่า ยังมีความไม่ชัดเจนในการกำหนดกลุ่มทหารกองหนุนที่จะถูกระดมพล โดยภายใต้คำสั่งระดมพลบางส่วนของปูติน มีข้อความที่คลุมเครือในการกำหนดผู้ที่จะถูกรวมหรือไม่รวมในการระดมพล ไม่กำหนดกลุ่มอายุ หมวดหมู่หรือพื้นที่ที่จะระดมพล และเปิดช่องให้กระทรวงกลาโหมสามารถเกณฑ์ทหารที่เป็นชายในวัยต่อสู้ได้มากกว่าที่ปูตินและชอยกูบอก
- พาเวล ชิคอฟ ทนายความและนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า “ในความเป็นจริง กระทรวงกลาโหมรัสเซียจะเป็นผู้ตัดสินว่าชายกลุ่มใด จากสถานที่ไหน และจำนวนเท่าไร ที่จะถูกส่งไปทำสงคราม”
- ขณะที่ชอยกูชี้ว่า ภารกิจหลักของทหารกองหนุน คือการเสริมกำลังรบในแนวหน้าของสมรภูมิยูเครน
รัสเซียดำเนินการระดมพลบางส่วนอย่างไร?
- นักวิเคราะห์ชี้ว่า หลังจากที่โครงสร้างกำลังสำรองของรัสเซียส่วนใหญ่ถูกรื้อถอนไปในช่วงปลายยุคสหภาพโซเวียต การระดมเกณฑ์ทหารหลายแสนคนเข้าสู่กองทัพน่าจะเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและยุ่งเหยิงไม่น้อย
- โดยแมสซิคอตมองว่า จากสถานการณ์ในตอนนี้ กองทัพรัสเซียจะรวบรวมกำลังพลที่เกณฑ์มาได้ และเร่งรีบส่งไปยังแนวหน้าหลังผ่านการฝึกแบบเก่าที่ไร้ประสิทธิภาพ เนื่องจากไม่มีเวลา
- สำหรับหน้าที่ในการจัดการเพื่อให้การระดมพลเป็นไปอย่างราบรื่น จะเป็นหน้าที่ของผู้ว่าราชการในภูมิภาคต่างๆ
- ชิคอฟชี้ว่า กลไกของการระดมพลเริ่มจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียกำหนดโควตาสำหรับระดมพลในแต่ละภูมิภาค จากนั้นผู้ว่าราชการในแต่ละพื้นที่จะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ
การระดมพลบางส่วนส่งผลต่อสงครามยูเครนอย่างไร?
- การระดมกำลังสำรองนั้นเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานานและใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่าไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์สงครามในยูเครนได้ในทันที
- แมสซิคอตกล่าวว่า เธอมองไม่ออกว่ารัสเซียจะสามารถสร้างหน่วยทหารหรือกองพันใหม่จากทหารกองหนุนที่มีค่าเทียบเท่าอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ใช้งานได้จริงได้อย่างไร เนื่องจากเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาหลายเดือน
- และแม้ว่าหน่วยทหารที่สร้างขึ้นมาจะพร้อม แต่ก็มีแนวโน้มที่จะไม่สามารถรับภารกิจยากๆ ได้ โดยกองทัพรัสเซียอาจมอบหมายเพียงภารกิจง่ายๆ เช่นการประจำตำแหน่งป้องกัน ซึ่งไม่อาจช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่กองทัพรัสเซียกำลังเป็นฝ่ายถดถอยและตั้งรับ และยังเป็นการยากที่จะยึดครองภูมิภาคดอนบาส อันเป็นเป้าหมายสงครามของเครมลิน
- ในระยะสั้นนั้น คาดว่ารัสเซียจะสามารถระดมกำลังพลสำหรับทหารราบได้ แต่จะเป็นเพียงการพยุงสถานการณ์ไม่ให้เสียเปรียบมากกว่าการโจมตีกลับ โดยแมสซิคอตเชื่อว่า “สำหรับตอนนี้ การโจมตีนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทำได้สำหรับกองทัพรัสเซีย”
ผู้ประท้วงนับพันถูกจับ หลายคนถูกยัดหมายเกณฑ์ทหาร
- สำหรับสถานการณ์ในรัสเซียนั้น มีการประท้วงต่อต้านการระดมพลเกิดขึ้นในหลายเมือง และมีกลุ่มผู้ประท้วงถูกจับกุมไปแล้วมากกว่า 1,300 คน
- รายงานจากสื่อหลายสำนัก ระบุว่าผู้ประท้วงที่ถูกจับกุมตัวได้บางส่วนได้รับเอกสารเกณฑ์ทหารระหว่างถูกคุมขังในสถานีตำรวจ
- ขณะที่ ดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลเครมลิน แสดงท่าทีว่าการดำเนินการให้หมายเกณฑ์ทหารในลักษณะดังกล่าวนั้นไม่ขัดต่อกฎหมาย
ชายรัสเซียแห่หนีออกจากประเทศ
- สถานการณ์บริเวณชายแดนของรัสเซียนั้น พบว่าบริเวณด่านตรวจชายแดนติดกับจอร์เจีย มีรถยนต์ต่อแถวรอข้ามชายแดนยาวกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งในจำนวนนี้ มีชายหลายคนที่พยายามหนีออกจากประเทศหลังการประกาศระดมพลของปูติน โดยคนที่ได้ข้ามชายแดนแล้ว เผยว่าต้องใช้เวลาต่อแถวนานกว่า 7 ชั่วโมง
- สำนักข่าว BBC รายงานว่า ชายคนหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ เล่าว่าเขาหยิบเพียงหนังสือเดินทางของตนและตรงมาที่ชายแดนโดยไม่เอาข้าวของอะไรมาด้วย เนื่องจากเขาเป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในกลุ่มที่อาจถูกระดมพลและส่งไปทำสงคราม
- สาเหตุที่ประชาชนจำนวนมากพากันหนีข้ามไปทางจอร์เจียนั้น เนื่องจากจอร์เจียถือเป็นประเทศเพื่อนบ้านรัสเซียเพียงไม่กี่ประเทศที่ไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่า
- นอกจากนี้ จุดหมายปลายทางอื่นๆ ที่ชาวรัสเซียจะหนีไปได้ เช่น เซอร์เบีย ตุรกี หรือดูไบ ซึ่งต้องเดินทางไปด้วยเครื่องบิน และตอนนี้ราคาตั๋วเครื่องบินนั้นพุ่งไปเกือบ 10 เท่า และบางเส้นทางนั้นขายหมดไปแล้ว
- ขณะที่ชาติยุโรปบางประเทศ อาทิ เยอรมนี แสดงท่าทีว่าพร้อมต้อนรับชาวรัสเซียที่หนีการระดมพลเข้าสู่ประเทศ แต่ลัตเวีย ลิทัวเนีย และเอสโตเนีย รวมถึงสาธารณรัฐเช็ก แสดงท่าทีต่างออกไป โดยจะไม่เสนอการให้ลี้ภัยสำหรับชาวรัสเซีย
ภาพ: Photo by Contributor / Getty Images
อ้างอิง: