วันนี้ (24 พฤศจิกายน) วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เข้าหารือเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ว่าเป็นการหารือเกี่ยวกับการขยายเวลาบังคับใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินออกไป 45 วัน เพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 ไม่เกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มราษฎรในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากการขยายเวลาบังคับใช้ 45 วันครั้งนี้มีปัญหาบางอย่าง เพราะเขาสงสัยว่าจะขยายเวลาครั้งละ 30 วันเหมือนเดิมได้หรือไม่
ตนชี้แจงไปว่าหากเป็นเช่นนั้นจะต้องมีการประชุมคณะรัฐมนตรี ช่วงปลายเดือนธันวาคม เพื่อขยายเวลาการบังคับใช้ เมื่อตนอธิบายก็เข้าใจเป็นที่เรียบร้อย และยืนยันว่าไม่ใช่การหารือเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุม ซึ่งมีกระแสข่าวการประกาศกฎอัยการศึกที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าเป็นผู้มีอำนาจในการประกาศ
วิษณุกล่าวอีกว่า การประกาศบางพื้นที่เป็นอำนาจของผู้ดูแลพื้นที่ เช่น แม่ทัพภาคจะมีอำนาจประกาศในพื้นที่ของตัวเอง ส่วนการประกาศทั่วประเทศเป็นอำนาจของบุคคลอีกประเภทหนึ่ง แต่คนที่จะประกาศคือพระมหากษัตริย์
เมื่อถามว่า แล้วทำไมเมื่อปี 2557 ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) จึงประกาศได้ วิษณุระบุว่า ผบ.ทบ. ประกาศแล้วนำความกราบบังคมทูลฯ กรณีของ ผบ.ทบ. จะมีลักษณะคล้ายกับนายกฯ ที่สามารถประกาศได้ทั้งประเทศ แต่ถ้านายกฯ จะประกาศต้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม. ต่างจากผู้บัญชาการในพื้นที่ที่เมื่อประกาศแล้วไม่ต้องผ่านที่ประชุม ครม.
เมื่อถามว่า สถานการณ์ปัจจุบันถึงจุดที่ต้องประกาศกฎอัยการศึกแล้วหรือยัง วิษณุปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว โดยระบุว่า ไม่มีความเห็น เป็นหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องประเมิน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
