“มือมีไว้ทำอาหาร ต่อให้ตายก็ไม่มีวันทำร้ายผู้หญิง”
คือมอตโตประจำตัวของ ซันจิ พ่อครัวและลูกเรือคนที่ 4 ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ผู้ตั้งปณิธานเอาไว้ว่า จะทำอาหารให้ทุกคนอิ่มท้อง เพื่อเพื่อนพ้องที่รักยิ่ง และมีความฝันสูงสุดคือการได้ค้นพบ ‘ออลบลู’ ทะเลที่มีสิ่งมีชีวิตทั้งหมดมาอยู่รวมกัน จากการ์ตูนเรื่อง One Piece
ในบรรดาตัวละครเรื่อง One Piece ทั้งหมด ซันจินับว่าเป็นหนึ่งในตัวละครที่น่าสงสาร ถึงแม้จะเปิดตัวในฐานะรองเชฟสุดโหดแห่งภัตตาคารบาราติเอ กลายเป็นสมาชิกคนสำคัญที่มีความสามารถด้านการต่อสู้เป็นอันดับต้นๆ จนถูกเรียกว่า 3 สัตว์ประหลาดแห่งกลุ่มหมวกฟาง มีความเป็นสุภาพบุรุษ ลุคเท่ แถมยังมีไหวพริบเฉลียวฉลาด คอยวางแผนและแอบปฏิบัติภารกิจลับเพื่อช่วยเพื่อนๆ ในเวลาคับขันอยู่เสมอ
แต่ก็มีอยู่หลายครั้งที่ซันจิถูกใช้เป็นเครื่องมือเรียกเสียงหัวเราะจากปลายปากกาของผู้เขียนอย่าง เออิจิโร โอดะ ที่มักจะวางให้เขาเป็นตัวตลกในฐานะเจ้าคิ้วม้วนจอมลามก ตรงกันข้ามกับ โรโรโนอา โซโร ที่เป็นเหมือนลูกรักยิ่งอ่านยิ่งเท่ของอาจารย์โอดะอย่างสิ้นเชิง
รวมทั้งในช่วงไทม์สคิปที่ทุกคนแยกย้ายไปฝึกวิชาเป็นเวลา 2 ปี ที่เพื่อนๆ ได้ฝึกวิชากับอาจารย์สุดเข้ม ลูฟี่ได้ฝึกกับราชานรกเรย์ลี, คู่แข่งอันดับหนึ่งอย่าง ‘พี่หลง’ โซโร ก็ได้ฝึกวิชากับ ‘ตาเหยี่ยว’ นักดาบอันดับหนึ่งของโลก แต่ซันจิถูกส่งไปฝึกวิชา (ที่ส่วนใหญ่จะเป็นการวิ่งหนีจนบินได้) กับปรมาจารย์หมัดกะเทย 100 คน จนกลายเป็นโรคเห็นผู้หญิงไม่ได้ ที่ถึงขนาดเลือดกำเดาไหลจนหมดตัวเมื่อได้พบสาวๆ บนเกาะเงือกในเวลาต่อเวลา
มาจนถึงภาควาโนะคุนิ ที่สมาชิกใหม่อย่างจินเบระเบิดฟอร์มโชว์พลังเหมือนอัดอั้นมานาน ได้จับคู่ต่อสู้กับหกล่องนภาที่แข็งแกร่ง ฮูส์ฮู ซันจิก็ยังติดกับดักใยแมงมุมของแบล็กมาเรีย ถูกซ้อมเป็นกระสอบทราย (เพราะไม่ยอมทำร้ายผู้หญิง) แถมยังร้องตะโกนจนเสียงหลงเพื่อให้ นิโค โรบิน มาช่วย
ถึงแม้ตอนนี้จะแสดงให้เห็นว่าซันจิเชื่อใจ คิดว่าโรบินจะเอาชนะแบล็กมาเรียได้ (และทำให้โรบินดีใจมากที่สามารถช่วยเหลือเพื่อนได้) แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ซันจิค่อยๆ ห่างไกลจากตำแหน่ง ‘สามปีศาจ’ ผู้เข้มแข็งประจำกลุ่มออกไปทุกที
ในวาระครบรอบวันเกิดของซันจิปีนี้ เราได้แต่อวยพรและตั้งความหวังจริงๆ ว่า ในตอนท้ายอาจารย์โอดะจะสร้างฉากประทับใจ น่าจดจำ กู้ศักดิ์ศรีให้กับเชฟขาดำกลับมาอีกครั้ง
รวมทั้งอดีตอันแสนขมขื่นในวัยเด็กที่ทำคนอ่านตลกไม่ออก กับความเจ็บปวดแสนเศร้าที่ไม่แพ้ นิโค โรบิน ในฐานะผลการทดลองที่ล้มเหลว ลูกที่ถูกพ่อปฏิเสธการมีอยู่ น้องที่ถูกพี่ๆ กลั่นแกล้ง และ ‘เจ้าชาย’ ที่ไม่มีใครจดจำ
ซันจิคือลูกชายคนที่ 3 ของ วินสโมค จัดจ์ นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะ ราชาแห่งเจอร์มา 66 อาณาจักรนักฆ่าที่โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ เขาคือผลผลิตจากการทดลองของจัดจ์ ที่ต้องการดัดแปลงพันธุกรรมของลูกชายให้กลายเป็นนักรบผู้แข็งแกร่ง มีความสามารถเหนือขีดจำกัดของมนุษย์ และตัดทิ้งซึ่งความรู้สึกเจ็บปวด เสียใจออกไป
ผลการทดลองของจัดจ์นับว่าประสบความสำเร็จดีเยี่ยม เขาสร้างลูกชายแฝดสี่ออกมาได้อย่างที่ตั้งใจ ทั้ง อิชิจิ (คนโต), นิจิ (คนรอง) และยจจิ (คนสุดท้อง) เป็นเด็กที่มีความสามารถเหนือมนุษย์ ยกเว้นซันจิเพียงคนเดียวเท่านั้นที่อ่อนแอ ต่อสู้ไม่เก่ง ทำอะไรก็ล้มเหลว แถมยังมีความรู้สึกของการมนุษย์อยู่ในหัวใจ
ถ้ามองในแง่วิทยาศาสตร์ ซันจิคือ ‘การทดลองล้มเหลว’ ที่เกิดจากการที่แม่ของเขาต้องการยับยั้งการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม เพื่อให้ลูกเติบโตมาเป็นมนุษย์ที่มีหัวใจอย่างที่ควรจะเป็น
ซันจิเลยกลายเป็นเด็กอ่อนแอที่ถูกพี่น้องรุมแกล้งอยู่เสมอ ในขณะที่คนอื่นๆ ใช้เวลาไปกับการฝึกต่อสู้ แต่ซันจิจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้เรียนรู้เรื่องสิ่งมีชีวิตในทะเล และมักจะใช้เวลาว่างศึกษาการทำอาหารไปให้แม่ที่ร่างกายอ่อนแอ รวมทั้งบรรดาหนูตัวเล็กๆ ในปราสาทอยู่เสมอ
พฤติกรรมดังกล่าวทำให้จัดจ์ที่ต้องการลูกชายที่ไร้ซึ่งคุณสมบัตินักรบสมบูรณ์แบบ ตัดสินว่าซันจิเป็น ‘การมีอยู่ที่ไร้ค่า’ ถึงขนาดเอาซันจิไปขังไว้ในคุกพร้อมหน้ากากเหล็กเพื่อปิดบังตัวตน และพยายามทำทุกอย่างเพื่อ ‘ลบ’ การมีอยู่ของซันจิให้หายไป
แม้กระทั่งในวันที่ซันจิประกาศว่าจะออกจากปราสาท จัดจ์ก็ปล่อยให้ซันจิหนีไปอย่างไม่ใยดี ขอเพียงอย่างเดียวว่าซันจิจะต้องไม่บอกให้ใครรู้ว่าเขาทั้งสองเป็นพ่อลูกกัน
หลังจากนั้นเจ้าชายแห่งวินสโมคก็เดินทางออกจากอาณาจักร จนได้พบกับ ‘เซฟขาแดง’ ชายผู้เสียสละ ‘ขา’ เพื่อช่วยชีวิตซันจิ และกลายเป็น ‘พ่อ’ ผู้สอนวิชาทำอาหาร ปรัชญาการเป็นพ่อครัว ที่เมื่อมีคนอยากกินอาหาร ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครหรือเลวแค่ไหน เขาก็มีสิทธิ์ที่จะได้กิน
รวมทั้งกฎเหล็กสำคัญของสุภาพบุรุษที่ว่า “ลูกผู้ชายจะเตะผู้หญิงไม่ได้ เกิดเป็นมนุษย์จะทำผิดพลาดแค่ไหนก็ได้ แต่ถ้าทำผิดในฐานะลูกผู้ชายจงไปตายซะ”
ซันจิยึดถือกฎเหล็กนั้นมาตลอด ถึงแม้จะมีท่าทางเจ้าชู้ ลามกตลอดเวลา แต่เราจะไม่มีทางเห็นซันจิทำร้ายผู้หญิงแม้แต่ครั้งเดียว (ยกเว้นตอนสู้กับบิ๊กมัมที่นับเป็นกรณียกเว้น) ตั้งแต่ตอนสู้กับมิสเตอร์ทู ที่กินผลเลียนแบบ ซันจิจะสู้กับทุกคนที่มิสเตอร์ทูปลอมตัวมาได้เสมอ
ยกเว้นเปลี่ยนหน้าเป็นผู้หญิง รวมทั้งตอนสู้กับแคลิเฟอร์ในเอนิเอสล็อบบี้ ที่ซันจิยอมถูกทำร้ายจนปางตาย โดยไม่ตอบโต้แม้แต่ครั้งเดียว
มาจนถึง ‘ซันจิโชว์’ ในภาคโฮลเค้กไอส์แลนด์ ที่ซันจิถูกบังคับให้เป็นตัวแทนของเจอร์มา 66 แต่งงานทางการเมืองกับ ชาร์ล็อต พุดดิ้ง ลูกสาวคนที่ 35 (จาก 85 คน) ของบิ๊กมัม
ซันจิถูกความแข็งแกร่งของ 1 ใน 4 จักรพรรดิโจรสลัดอย่างบิ๊กมัม ใช้ชีวิตของเซฟขาแดงที่ซันจินับถือเป็นพ่อ และเพื่อนพ้องกลุ่มหมวกฟางเป็นตัวประกัน เขาต้องโกหกเพื่อตัดความสัมพันธ์ ยอมเตะลูฟี่ทั้งน้ำตาจนสลบ เพื่อหวังรักษาชีวิตเพื่อนๆ เอาไว้
เขายอมสละทุกอย่างเพื่อพวกพ้อง เตรียมตัวเป็นเจ้าบ่าวที่ดี ก่อนที่สุดท้ายจะพบว่าแผนการทั้งหมดเป็นเพียงแผนลวงของบิ๊กมัมเพื่อยึดครองอาณาจักรเจอร์มาร์ 66 และคำขอแต่งงานที่จริงใจของเขาก็ถูกเอามาล้อเล่นจนไม่เหลือชิ้นดี
ทั้งที่รู้ว่าเป็นแผนลวง แต่ซันจิก็ยินดีเดินเข้าพิธีแต่งงาน และเมื่อเจ้าสาวของเขาเผยให้เห็น ‘ดวงตาที่ 3’ อันแสนชั่วร้าย แต่ซันจิกลับมองว่านี่คือดวงตาที่งดงามที่สุดที่เคยพบมา
หัวใจที่อ่อนโยนของซันจิได้หลอมละลายปมในใจของพุดดิ้งที่เคยถูกมองว่าเป็นสัตว์ประหลาด ต้องใช้ชีวิตตามที่ ‘แม่’ ของเธอสั่ง และพวกเขาก็กลายเป็นกำลังสำคัญในภารกิจทำเค้กแต่งงานเพื่อยุติอาการคลั่งของบิ๊กมัมจนสำเร็จ
แต่สุดท้ายด้วยความแตกต่างของเส้นทางที่ไม่อาจบรรจบ ในช่วงเวลาที่ความรักของทั้งคู่กำลังเบ่งบาน พุดดิ้งมอบจุมพิตสุดท้ายให้ซันจิด้วยความรัก ก่อนที่จะใช้พลังพิเศษลบความทรงจำช่วงนั้นในหัวใจซันจิให้หายไป ก่อนที่จะส่งตัวอดีตเจ้าบ่าวให้ออกเดินทางอย่างอิสระไปตามความฝันที่เขาปรารถนา
ไม่ใช่ในฐานะเจ้าชาย ไม่ใช่ผลการทดลองที่ล้มเหลว แต่ในฐานะมนุษย์ธรรมดาที่มีหัวใจ ในฐานะสุภาพบุรุษที่แม้จะลามกแต่จริงๆ แล้วอ่อนโยน ในฐานะกุ๊กยอดฝีมือที่ทำให้ทุกคนอิ่มท้อง ในฐานะคนที่รัก ‘พวกพ้อง’ ไม่แพ้ใคร
และในฐานะตัวละครที่เรารัก ไม่มีวันลืมจากเรื่อง One Piece
อ้างอิงและเรียบเรียงใหม่จากบทความนี้
วันเกิด วินสโมค ซันจิ จุมพิตที่หล่นหายของเจ้าชายที่ถูกลืม – THE STANDARD
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
