VinFast เตรียมเอกสารพร้อมที่จะยื่นบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ผ่านวิธี SPAC ร่วมกับบริษัทเช็คเปล่า Black Spade Acquisition ที่ก่อตั้งโดยเจ้าพ่อคาสิโน Lawrence Ho ดีลดังกล่าวจะทำให้ VinFast มีมูลค่าสูงถึง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ และดันให้ Pham Nhat Vuong เจ้าของบริษัท กลายเป็นหนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในโลกในช่วงเวลาหนึ่ง รับความมั่งคั่งสูงถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
ในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ (10 สิงหาคม) ผู้ถือหุ้นของ Black Spade Acquisition Co จะลงมติว่าข้อตกลงดังกล่าวสำเร็จหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้น ดีลนี้จะกลายเป็นการทำธุรกรรมเพื่อวัตถุประสงค์พิเศษของบริษัทที่มีมูลค่ามากเป็นอันดับ 3 ของประวัติศาสตร์ และตามสถิติแล้ว จะส่งผลให้ Pham Nhat Vuong ครองความมั่งคั่งรวม 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 5 พันล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Bloomberg Billionaires Index ซึ่งติดตามบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก 500 คนแรก
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าดีลจะสำเร็จลุล่วงได้อย่างง่ายดาย เพราะยังคงมีความเสี่ยงมากมายที่อาจนำไปสู่การล้มดีล อีกทั้งความรุ่งโรจน์ของ SPAC ก็ได้จางหายไปแล้ว และถ้าหากข้อตกลงล่าสุดเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องดำเนินการ มูลค่าหุ้นของบริษัทอาจลดลงในไม่ช้าหลังจากเริ่มซื้อ-ขาย
บริษัท EV สัญชาติเวียดนามนี้มีประวัติที่ไม่ชัดเจน เมื่อระบุถึงการเข้าตลาดหุ้นด้วยการ SPAC และนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2020 มีอย่างน้อย 5 บริษัทที่ราคาหุ้นทะยานขึ้นในช่วงสั้นๆ หลังจากจดทะเบียนด้วยวิธี SPAC ก่อนที่จะพังทลายและผลาญเงินจำนวนมากของนักลงทุน หนึ่งในนั้นคือ Lordstown Motors Corp. ซึ่งถูกฟ้องล้มละลายในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
VinFast กำลังประสบปัญหาจากการดำเนินงาน ทำให้บริษัทมีความทะเยอทะยานที่จะเพิ่มส่วนแบ่งในตลาด EV ที่มีการแข่งขันสูง โดยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา บริษัทได้เรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แบบสปอร์ตทั้งหมดในสหรัฐฯ เนื่องจากซอฟต์แวร์ทำงานผิดพลาด นอกจากนี้บริษัทยังได้ลดพนักงานในสหรัฐฯ บางส่วน จากผลประกอบการที่แย่ลง ทั้งยอดขายลดลงเล็กน้อยและขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้น
Chris Robinson ผู้อำนวยการอาวุโสของ Lux Research กล่าวว่า รีวิวส่วนใหญ่ได้วิพากษ์วิจารณ์ถึงคุณภาพของผลิตภัณฑ์เป็นอย่างมาก จึงยากที่จะหาเหตุผลให้กับการที่บริษัทประเมินมูลค่าของตนสูงถึง 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์
ในช่วง 6 ปีที่ดำเนินการมา VinFast ได้รับเงิน 9.3 พันล้านดอลลาร์เพื่อดำเนินการครอบคลุมค่าใช้จ่ายการดำเนินงานและการลงทุน โดยส่วนใหญ่มาจากธุรกิจอื่นๆ ของ Vuong
ถึงกระนั้น บริษัทคาดว่ายอดขายรถจะสูงถึง 45,000-50,000 คันในปีนี้ และมีความเป็นไปได้ในการผลิตรถกระบะไฟฟ้า รถยนต์ขนาดเล็ก และรถรุ่นอื่นๆ ในอนาคต หากมีความต้องการของตลาด นอกจากนี้ยังเริ่มสร้างโรงงานในนอร์ทแคโรไลนาเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่ง Vuong คาดการณ์ว่า VinFast จะถึงจุดคุ้มทุนภายในสิ้นปี 2024
อ้างอิง:
