วันนี้ (27 เมษายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตรวจติดตามสถานการณ์การแก้ไขปัญหาเหตุเพลิงไหม้โรงงานเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม บริษัท วินโพรเสส จำกัด ตำบลบ้านค่าย อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง
โดยนายกรัฐมนตรีสั่งผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ ซึ่งการไหม้รอบใหม่มักเกิดขึ้นในช่วงเช้า พร้อมขอให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานกำหนดวัน และให้เร่งรัดการหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร
ขณะที่ พล.ต.ท. สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าไปในที่เกิดเหตุได้ โดยเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานระบุว่า ไฟมักจะไหม้ในช่วงเวลา 08.00 น. ซึ่งกล้องสามารถเข้าไปถ่ายในที่เกิดเหตุได้เมื่อเช้านี้ คาดว่าน่าจะเป็นต้นเพลิง
นายกรัฐมนตรีจึงได้สอบถามว่าเป็นจุดที่วางเพลิงไหม้ใช่หรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงบอกว่า ใช่ เป็นจุดที่ไหม้ครั้งแรก ส่วนการสรุปสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ ขอให้เจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัยก่อนจึงจะทราบ ทำให้นายกรัฐมนตรีพยายามจี้ถามว่าจะต้องใช้เวลากี่วันจึงจะทราบสาเหตุเพลิงไหม้ ด้านเจ้าหน้าที่ยืนยันว่า ตอนนี้สามารถควบคุมเพลิงได้ แต่ก็มีโอกาสที่ปะทุขึ้นอีก
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์ว่า เบื้องต้นได้อพยพคนจำนวน 78 คน จาก 2 ตำบลคือ ตำบลบางบุตร และตำบลหนองบัว ไปศูนย์พักพิง ซึ่งตอนนี้เหลือ 39 คน เป็นผู้ป่วยติดเตียง 4 คน โดยมีอาการเจ็บป่วยจากโรคทางเดินหายใจ และผู้ป่วยที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ได้เกิดจากการได้รับสารจากเหตุไฟไหม้ และหลังเพลิงสงบจะเข้าไปดูว่ามีสารเคมีใดหลงเหลือบ้างเพื่อหาวิธีกำจัด
ขณะที่ วิเชียร สุขเกิด ผู้สมัคร สส. พรรคเพื่อไทย กล่าวกับนายกรัฐมนตรีว่า ชาวบ้านไม่เชื่อผลค่าวัดอากาศของหน่วยงานราชการ และตั้งแต่เกิดเพลิงจนถึงวันนี้ ประชาชนยังไม่ได้รับข้อเท็จจริง และต้องอพยพออกจากพื้นที่
ส่วนอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมรายงานว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียน บริษัท วินโพรเสส จำกัด มาตั้งแต่ปี 2556 โดยในปี 2564 ศาลพิพากษาให้บริษัทกำจัดสารเคมี โดยมีการจ้างบริษัท เอสเค ให้เริ่มขนย้ายในปี 2566 แต่เมื่อหมดสัญญาแล้ว งานยังไม่แล้วเสร็จ กรมอุตสาหกรรมจะเข้ามากำจัดกากเคมีเอง โดยเมื่อวานนี้ได้ไปร้องอัยการเพื่อให้ประสานกับศาล ขอแถลงต่อศาลว่ากรมอุตสาหกรรมโรงงานจะบำบัดเอง
ด้านผู้เชี่ยวชาญจากบริษัท เอ็นพีซี ที่มีประสบการณ์ดับไฟจากโรงงานหมิงตี้เคมีคอลที่เข้ามาช่วยดับไฟ กล่าวว่า ตอนนี้ควบคุมไฟได้เกือบ 100% แล้ว แต่ยังมีไฟที่ต้องกลบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตทับด้วยทราย เพื่อไม่ให้ไฟลุก และป้องกันฝนที่จะตกลงมาในอนาคต โดยจะควบคุมอุณหภูมิไม่ให้สารเคมีคุกรุ่น เมื่อตะกรันอะลูมิเนียม (Aluminium Dross) เจอกับน้ำจะทำให้เกิดสารแอมโมเนีย
สั่งทุกหน่วยงานเร่งแก้ปัญหา-เยียวยาให้ประชาชน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยและกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยดูแลควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมจัดทำแผนเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ตำบลหนองบัว อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง และองค์การบริหารส่วนตำบลบางบุตรและตำบลหนองบัว เพื่อเป็นข้อมูลในการฟื้นฟูเยียวยาตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
นายกรัฐมนตรียังได้สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษและกรมโรงงานอุตสาหกรรมตรวจวัดคุณภาพอากาศตามชุมชนและรายงานผลให้ทราบ เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน และเร่งนำกากเคมีอันตรายในพื้นที่ไปกำจัดให้ถูกต้อง และเตรียมพร้อมรับมือแก้ปัญหาในช่วงฤดูฝนที่อาจมีวัตถุอันตรายหลุดออกมานอกพื้นที่
นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังสั่งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาให้ชัดเจน รวมทั้งให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมและสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดบูรณาการตรวจสอบโรงงานประเภทนี้ทั่วประเทศ และจัดทำแนวทางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ในพื้นที่อื่นๆ อีก
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมด้วย พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม, นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และ ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ได้แยกวงหารือเป็นเวลากว่า 5 นาที โดยนายกรัฐมนตรีมีสีหน้าที่เคร่งเครียด ทำนองต่อว่าปลัดกระทรวงฯ ในขณะที่ นพ.พรหมินทร์ พยายามใช้มือลูบหลังปลัดกระทรวงฯ เพื่อเป็นการปลอบ
ชาวบ้านร้องนายกฯ 10 ปีแสนทรมาน แก้ปัญหาไม่คืบหน้า
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินมารับหนังสือจากผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ ซึ่งเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีนำผู้เชี่ยวชาญมาแก้ไขปัญหาดังกล่าว และให้นำกากสารเคมีไปทำลายนอกพื้นที่ รวมไปถึงให้ย้ายอธิบดีกรมการอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมจังหวัดออก เนื่องจากเคยไปเรียกร้องปัญหานี้ที่ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่สมัยรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข
อย่างไรก็ตาม ระหว่างขบวนรถนายกรัฐมนตรีเดินทางออกจากโรงงานมีชาวบ้านชูป้ายขอให้นายกรัฐมนตรีเอาโรงงานนรกออกไป พร้อมป้ายระบุข้อความว่า “ให้นำขยะพิษเหล่านี้ออกไปจากหนองพะวา”, “นายกฯ มาทั้งทีมีเวลาให้ชาวบ้านแค่ 30 นาที” และ “วอนนายกฯ ช่วยที 10 ปีแสนทรมาน”
