ยอดขายสมาร์ทโฟนราคาประหยัดในเวียดนามพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2022 หลังรัฐบาลประกาศยุติการให้บริการเครือข่าย 2G ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้ประชาชนนับล้านต้องเปลี่ยนมาใช้สมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก
ข้อมูลจาก Counterpoint Research ระบุว่า 51% ของยอดขายโทรศัพท์มือถือในไตรมาส 3 เป็นรุ่นราคาไม่เกิน 200 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,900 บาท) จากผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Xiaomi, OPPO และ Samsung
การยกเลิกเครือข่าย 2G ของเวียดนามเป็นส่วนหนึ่งของแผนผลักดันการใช้งานเทคโนโลยี 4G และ 5G โดยภาครัฐร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ทั้งการแจ้งเตือนผ่านระบบรอสาย รวมถึงประกาศผ่านลำโพงสาธารณะ ซึ่งเป็นวิธีที่รัฐบาลคอมมิวนิสต์นิยมใช้สื่อสารกับประชาชน โดยในกรุงฮานอยจะติดตั้งลำโพงตามเสาไฟฟ้า ส่วนในโฮจิมินห์ซิตี้จะใช้รถประกาศเคลื่อนที่ คล้ายกับช่วงการระบาดของโรคโควิดที่ใช้วิธีนี้ในการแจ้งเตือนด้านสาธารณสุข
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่อย่าง Viettel, FPT, VNPT และ MobiFone ต่างทยอยออกแคมเปญส่งเสริมการขาย ทั้งการแลกซื้อเครื่องใหม่และแจกเวาเชอร์แพ็กเกจอินเทอร์เน็ต โดยเน้นพื้นที่ยากจนและห่างไกล
Counterpoint Research ระบุว่า สัดส่วนสมาร์ทโฟน 4G จะยังคงสูงต่อเนื่องในอีกหลายเดือนข้างหน้า และผู้ผลิตจะเร่งระบายสต็อกสมาร์ทโฟน 4G ในกลุ่มเครื่องราคาประหยัด โดยพบว่า 83% ของยอดขายในไตรมาสที่ผ่านมาเป็นเครื่องราคาไม่เกิน 600 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 21,000 บาท)
กระทรวงสารสนเทศและการสื่อสารเวียดนามเผยว่า ประเทศที่มีประชากรกว่า 100 ล้านคนแห่งนี้แทบไม่มีโทรศัพท์ 2G เหลืออยู่แล้ว จากที่เคยมีถึง 18 ล้านเครื่องในเดือนมกราคม แม้จะเผชิญความท้าทายในการเปลี่ยนผ่านผู้ใช้งานในพื้นที่ภูเขาและชนบท รวมถึงผู้ใช้ที่มีอคติและไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่าน โดยเฉพาะในช่วงที่ไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มในเดือนกันยายน ซึ่งยังมีผู้ใช้งาน 2G อยู่ถึง 1.8 ล้านคน
ทั้งนี้ เวียดนามถือเป็นประเทศล่าสุดที่ยุติการใช้งาน 2G หลังจากที่ญี่ปุ่นยกเลิกไปตั้งแต่ปี 2012 และสิงคโปร์ในปี 2017 โดยเทคโนโลยีนี้เริ่มใช้ครั้งแรกในฟินแลนด์เมื่อปี 1991 ล่าสุดเวียดนามตั้งเป้าจะยุติการให้บริการ 3G ภายในเดือนกันยายน 2028 ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้ใช้งานอยู่ 38.2 ล้านคนทั่วประเทศ