วันศุกร์ที่ 12 กันยายนนี้ สภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) จะพิจารณางบโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิรอบสุดท้าย หลังจากก่อนหน้านี้ทั้งในชั้นอนุกรรมการและวิสามัญฯ มีมติ ‘ตัดงบก้อนสุดท้าย’ มูลค่า 46.5 ล้านบาทออกไป
หากสภาฯ ยืนยันการตัดงบฯ อีกครั้ง จะทำให้โครงการนี้ซึ่งใช้งบรวม 90 ล้านบาท เสร็จได้เพียงครึ่งเดียวในปีงบประมาณ 2569 และกระทบโดยตรงต่อประชาชนผู้ใช้งานพื้นที่กว่า 14,000 คนต่อวัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของเมือง รองรับรถเมล์กว่า 4,500 เที่ยวต่อวัน
สำหรับโครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงทางเดินและจุดรอรถเมล์ให้สอดคล้องกับการใช้งานจริงของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางต่อรถหรือเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลกว่า 10 แห่งรอบพื้นที่ ผลลัพธ์ที่ออกแบบไว้คือการเพิ่มทางเท้าและทางข้าม ปรับทางเดินให้มีหลังคากันแดดกันฝนต่อเนื่อง และที่สำคัญคือการปรับระบบจอดรถเมล์ใหม่ทั้งหมด ให้ทุกคันจอดชิดซ้ายเพื่อความปลอดภัย พร้อมทั้งจัดกลุ่มจอดตามปลายทาง ลดปัญหาที่ผู้โดยสารต้องวิ่งเดาตามรถเมล์หลายสิบเมตรแบบที่ผ่านมา
หากงบประมาณไม่ผ่าน จะเหลือเพียงการก่อสร้างฝั่งพหลโยธิน ส่วนอีกครึ่งหนึ่งต้องเลื่อนออกไปอีกอย่างน้อย 1 ปี ทำให้ระบบที่ถูกออกแบบไว้สะดุด และประชาชนต้องเผชิญความไม่สะดวกต่อไป ขณะที่ต้นทุนเวลาจากความล่าช้าจะตกอยู่กับคนเมืองเป็นหลัก
ทั้งหมดนี้ทำให้การประชุม สก. วันศุกร์นี้ กลายเป็นจังหวะสำคัญที่กำหนดอนาคตของ ‘อนุสาวรีย์ชัยฯ’ ว่าจะได้ถูกยกระดับเป็นศูนย์กลางการเดินทางที่สมบูรณ์แบบ หรือจะสะดุดกลางทางเพราะงบ 46.5 ล้านบาท
