วันนี้ (17 ตุลาคม) พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การปฏิบัติการของเจ้าหน้าเมื่อวานนี้เป็นไปตามหลักสากล มีการเผยแพร่คำเตือนแล้วทั้งในพื้นที่และผ่านทางสื่อมวลชน ตนยืนยันว่า ไม่ต้องการใช้กำลังและไม่มีการใช้อาวุธรุนแรงในการสลายการชุมนุม มีการใช้เพียงรถฉีดน้ำ ซึ่งเป็นแบบแรงดันเบา ผสมสารเคมี ที่ตามหลักสากลระบุว่า เหมาะต่อการใช้ควบคุมสถานการณ์ เพื่อระงับยับยั้งเหตุความรุนแรง ส่วนสารเคมีที่ผสมไปในน้ำจะมีอาการข้างเคียงแค่ระคายเคืองเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต
“หากวันนี้ยังมีการชุมนุมอีก ก็ต้องมีการปฏิบัติเป็นขั้นเป็นตอน ขอย้ำว่า การชุมนุมในเวลานี้เป็นเรื่องผิดกฎหมาย พร้อมเตือนเรื่องการทำลายระบบขนส่งมวลชน เป็นการกระทำผิดกฎหมายร้ายแรง” พล.ต.ต. ยิ่งยศ กล่าว
ด้าน พล.ต.ต. จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ในการดูแลความสงบเรียบร้อยของการชุมนุม จำเป็นต้องมีการปิดการจราจรผ่านระบบขนส่งมวลชนต่างๆ โดยสถานีรถไฟฟ้า BTS จะมีการปิดให้บริการรวม 14 สถานี ตั้งแต่สถานีอารีย์ถึงสถานีพร้อมพงษ์ และสถานีสนามกีฬาแห่งชาติถึงสถานีศาลาแดง ซึ่งจะเริ่มปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 14.30 น. ส่วนสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินมีการปิดให้บริการเส้นทางสายสีน้ำเงินทั้งสาย ตั้งแต่เวลา 12.30 น. ส่วนสายสีม่วงยังให้บริการได้ตามปกติ ส่วนสถานีแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะปิดแค่สถานีพญาไทเท่านั้น
พล.ต.ต. จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนการจราจรพื้นราบจะมีการปิดการจราจร 2 สถานที่ คือ บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิและแยกอโศก-เพชรบุรี โดยการปิดการจราจรพื้นราบจะพิจารณาปิดตามสถานการณ์จริงเท่านั้น ส่วนผู้ที่จำเป็นต้องเข้าโรงพยาบาลใกล้จุดที่มีการปิดการจราจร ได้กำหนดเส้นทางเลี่ยงให้เข้าไปบริเวณด้านหลังของโรงพยาบาลแทนแล้ว ส่วนการใช้ทางด่วนลงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ยังสามารถใช้การได้ แต่จะไม่สามารถเข้าไปในวงเวียนได้หากมีการปิดการจราจรไปแล้ว จึงแนะนำประชาชนที่ต้องเดินทางผ่าน 2 จุดนี้ ควรเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น หรือตรวจสอบเส้นทางก่อนออกเดินทาง
“การเลือกปิดเส้นทางดังกล่าวเป็นเพียงสมมติฐานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมอาจมีการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว แต่หากมีสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ก็จะมีการปรับเปลี่ยนวิธีการต่อไป พร้อมย้ำว่า จะมีการจัดการจราจรเพื่อลดผลกระทบให้กับประชาชนให้มากที่สุด” พล.ต.ต. จิรสันต์ กล่าว
ด้านตัวแทนโรงพยาบาลตำรวจกล่าวว่า ได้รับตำรวจมาดูแลรักษาพยาบาลแล้ว 5 นาย จากการชุมนุมเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 1 นาย และวันที่ 16 ตุลาคมอีก 4 นาย ส่วนประชาชนได้กระจายไปรักษาตามโรงพยาบาลต่างๆ รวม 3 ราย ซึ่งทั้งหมดแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแล้ว ส่วนเรื่องสารเคมีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่าเป็นแก๊สน้ำตาหรือไม่ ยอมรับว่ายังไม่ทราบว่าเป็นสารเคมีชนิดใด ขอเวลาตรวจสอบก่อน ทราบแต่ว่าเป็นสารเคมีที่ใช้ในการควบคุมฝูงชนทั่วโลก ไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หลังจากนี้อาจให้เจ้าหน้าที่เทคนิคชี้แจงรายละเอียดเรื่องนี้อีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล