(15 ม.ค.) พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง ตำรวจจากกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนขององค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ และเจ้าหน้าที่จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร่วมกันตรวจสอบตู้เซฟ ซึ่งอายัดจากสถานบริการวิคตอเรีย ซีเครท ย่านพระราม 9 จำนวน 3 ตู้ ขนาดความสูงประมาณ 80 เซนติเมตร 2 ตู้ และสูงประมาณ 60 เซนติเมตร 1 ตู้
โดยผู้เชี่ยวชาญใช้สว่านในการเจาะและปลดสลักตู้เซฟ โดยเริ่มจากตู้เล็กสุดก่อน เจ้าหน้าที่ไม่พบสิ่งของภายในตู้ ถัดมาตู้ที่สองพบเอกสารรายละเอียดพนักงาน รวมถึงเงินสดจำนวนมาก และตู้ที่สามพบว่ามีเอกสารคูปองพร้อมรหัสพนักงาน โควตาบัตรส่วนลดการใช้บริการ รวมทั้งรายละเอียดการทำงานของหญิงค้าบริการ เจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดไว้
นอกจากนี้ยังสามารถตรวจยึดคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์จากสถานบริการดังกล่าว ซึ่งจะต้องทำการตรวจสอบข้อมูลภายในเซิร์ฟเวอร์ต่อไป
พันตำรวจเอก สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีค้ามนุษย์ ระบุว่า จากการคัดแยกผู้เสียหายเมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่ามีหญิงสาวที่เข้าข่ายเสียหายจากการค้ามนุษย์ 3 คน (สัญชาติเมียนมา 2 คน และจีน 1 คน) ส่วนอีก 25 คน (สัญชาติเมียนมา 21 คน, ลาว 3 คน และไทย 1 คน) อยู่ระหว่างการตรวจกระดูกเพื่อหาอายุที่แท้จริง โดยหลังจากดำเนินการสอบสวนหญิงสาวทั้งหมดแล้ว จะส่งตัวไปยัง สน.วังทองหลาง และเตรียมผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป ส่วนผู้ที่ไม่อยู่ในข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ที่เหลืออีก 83 คน ถูกส่งไปแจ้งข้อหาดำเนินคดีที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแล้ว
ขณะที่การสืบสวนหาความเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มีรายชื่อออกมาก่อนหน้านี้ ดีเอสไอจะดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดโดยรอบสถานบริการว่าเจ้าหน้าที่ดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องกับสถานบริการนี้หรือไม่อย่างไร ก่อนจะส่งผลให้ทางกองบังคับการตำรวจนครบาลต่อไป เนื่องจากบัญชีรับส่วยส่วนมากจะมีเพียงอักษรย่อ ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชี แต่จะใช้วิธีให้คนมาเก็บเป็นเงินสด
ด้านนายบุญทรัพย์ อมรรัตนศิริ หรือป๋ากบ หัวหน้าคนเชียร์แขกของสถานบริการ ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่การสืบค้นหาตัวเจ้าของสถานบริการนั้นยังอยู่ระหว่างการขยายผลสืบสวน เบื้องต้นพบว่าเจ้าของสถานบริการแห่งนี้ยังเป็นเจ้าของสถานบริการอื่นๆ ด้วย
สำหรับปฏิบัติการบุกเข้าตรวจค้นสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ย่านพระราม 9 กรุงเทพมหานคร มีขึ้นเมื่อวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา โดยดีเอสไอเป็นเจ้าของคดีและนำเข้าตรวจค้นพร้อมเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง พบผู้หญิงถูกบังคับค้าประเวณี 113 คน รวมถึงเอกสารรายชื่ออักษรย่อของเจ้าหน้าที่รัฐที่เรียกรับผลประโยชน์ประมาณ 20 ราย ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลมีคำสั่งให้ตำรวจ สน.วังทองหลาง ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ได้แก่ ผู้กำกับการ, รองผู้กำกับการสืบสวน, สารวัตรป้องกันปราบปราม 2 นาย และสารวัตรสืบสวน มาช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้การตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีความโปร่งใส โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา
