×

วิชัย ศรีวัฒนประภา ชายผู้สร้างฝันของเลสเตอร์ฯ ให้กลายเป็นจริง

29.10.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

8 Mins. Read
  • วันที่ 29 ตุลาคม 2018 สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ออกแถลงการณ์ยืนยันการเสียชีวิตของ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของทีมเลสเตอร์ ซิตี้ และผู้บริหารคิง เพาเวอร์ จากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ตกบริเวณนอกสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม
  • สโมสรฟุตบอลทั่วอังกฤษ รวมถึงแฟนบอลเลสเตอร์ฯ ต่างร่วมไว้อาลัยกับบุคคลที่ขึ้นชื่อว่า ได้สร้างเทพนิยายของวงการฟุตบอล ด้วยการพาเลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเหนือความคาดหมาย และอัตราต่อรองที่ 5,000:1 ในวันที่เริ่มต้นฤดูกาล 2015/16
  • “เขาจะถูกจดจำในฐานะคนที่มีความใจกว้าง ถ่อมตัว และทะเยอทะยาน เขาเป็นที่รักของเลสเตอร์ฯ ไม่ใช่แค่เพียงความทรงจำที่เขาได้มอบไว้ในสนาม แต่เพราะความเอาใจใส่และความห่วงใยนอกสนาม” คือสิ่งที่ เบน เจคอบส์ ผู้สื่อข่าว beIN SPORTS และชาวเมืองเลสเตอร์ได้กล่าวถึงความทรงจำที่แฟนบอลมีต่อประธานสโมสรผู้กลายเป็นตำนานคนนี้

 

วันที่ 29 ตุลาคม 2018 คือวันที่ชาวเมืองเลสเตอร์หลับตาลงนอน พร้อมประชาชนชาวไทยที่ลืมตาขึ้นมาพบกับข่าวสะเทือนใจของวงการฟุตบอล เมื่อทางสโมสรได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ และกลุ่มธุรกิจคิง เพาเวอร์ เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวตกบริเวณนอกสนามคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ในเมืองเลสเตอร์ ซึ่งทั้ง 5 คนที่อยู่บนเครื่องไม่มีผู้รอดชีวิต

 

 

เหตุการณ์นี้ถูกยกให้เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของวงการฟุตบอลโลก เนื่องจากวิชัยได้เปลี่ยนสโมสรเล็กๆ แห่งหนึ่งในประเทศอังกฤษ ให้กลายเป็นเรื่องราวแห่งความทรงจำของผู้คนจากทั่วโลก และเปลี่ยนแปลงความฝันของผู้คนในเมืองเลสเตอร์ให้กลายเป็นจริง เมื่อวันที่เขาก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรตั้งแต่ปี 2010 ด้วยมูลค่า 40 ล้านปอนด์ ก่อนจะล้างหนี้สโมสร และใช้เวลาเพียง 5 ปี เปลี่ยนแปลงสโมสรในลีกแชมเปียนชิปให้กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก

 

จุดเริ่มต้นแห่งเทพนิยาย

วันที่ 6 สิงหาคม 2010 คือวันที่เริ่มมีข่าวว่า กลุ่มคิง เพาเวอร์ จากประเทศไทย เตรียมเข้าซื้อหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ของสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้

 

ในห้วงเวลาที่กลุ่มทุนหน้าใหม่จากประเทศไทยที่เข้ามาเป็นเจ้าของสโมสร ซึ่งไม่ได้อยู่ในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกสูงสุดของประเทศ ทำให้หลายฝ่ายในเวลานั้นมองว่า เป็นเพียง ‘ของเล่น’ ของกลุ่มนายทุนจากเอเชียที่ดูไม่มีความจริงจังในด้านฟุตบอลมากนัก แต่เมื่อช่วงเวลาผ่านไปทุกอย่างก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า วิชัยและกลุ่มนายทุนจริงจังแค่ไหนกับการเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอล และมีเป้าหมายสูงขนาดไหนในการลงทุนครั้งนี้

 

“วันที่คุณได้เซ็นสัญญา พาผมมาที่สโมสรในปี 2011 คุณบอกกับผมว่า เราจะไปแชมเปียนส์ลีกภายในระยะเวลา 6 ปี และเราจะสร้างสิ่งมหัศจรรย์ด้วยกัน” เป็นส่วนหนึ่งในคำแถลงการณ์จาก แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูชาวเดนมาร์ก ที่ได้กล่าวข้อความอำลาประธานวิชัย หลังจากที่ทางสโมสรเลสเตอร์ฯ ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ

 

“คุณได้เปลี่ยนแปลงฟุตบอลไปตลอดกาล” กับการแปลงฝันของคนเมืองเลสเตอร์ให้กลายเป็นจริง

 

 

จากหนังสือ The Fairy Tale of Underfox ของสำนักพิมพ์ a book ที่ได้เผยถึงจุดมุ่งหมายของวิชัยในวันที่เขาเป็นแฟนบอล และผู้ซื้อบอร์ดโฆษณาของสโมสรเชลซี จนวันหนึ่งได้เกิดเหตุการณ์เจ้าหน้าที่สนามเกือบเอาเครื่องสแกนมากระแทกคาง จนสร้างความไม่พอใจให้กับเขา เนื่องจากหากเจ้าหน้าที่ตรวจโดยระมัดระวัง เรื่องแบบนี้คงไม่เกิด และทำให้เขาตัดสินใจไม่เข้าสนามสแตมฟอร์ดบริดจ์อีกเลย

 

จนมาถึงวันที่เขาได้ก้าวเข้าสนามฟุตบอลในประเทศอังกฤษอีกครั้ง แม้ว่าจะเป็นสีน้ำเงินเหมือนกัน แต่สโมสรแห่งนี้อยู่ในระดับแชมเปียนชิปในเมืองเลสเตอร์ กับชื่อสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้  

 

 

แม้ว่าในช่วงแรก เลสเตอร์ ซิตี้จะยังไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด รวมถึงอาจยังไม่เป็นที่สนใจของผู้คนในประเทศไทยนัก เนื่องจากการถ่ายทอดสดการแข่งขันของฟุตบอลแชมเปียนชิปในเวลานั้นก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลายมากในเมืองไทย

 

แต่สโมสรภายใต้การบริหารของกลุ่มคิง เพาเวอร์ ก็เริ่มเดินหน้าสร้างความฝันของคนในเมืองให้กลายเป็นจริง ด้วยการเข้าถึงเจ้าหน้าที่ ทีมงานทุกภาคส่วนของสนาม ต่างกับซีอีโอของสโมสรฟุตบอลคนอื่นๆ

 

วิชัยและลูกชาย อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ไม่ได้เพียงแค่ลงทุนเป็นเม็ดเงินจากต่างแดนเพียงอย่างเดียว แต่เขาได้ใช้เวลาส่วนใหญ่กับสโมสรในอังกฤษ ดูแลบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด

 

 

จุดเด่นอย่างหนึ่งที่เป็นที่ยอมรับของแฟนบอลคือ การต้อนรับขับสู้ภายในสนาม ทั้งการแจกเบียร์ และอาหารฟรีให้กับแฟนบอล รวมถึงการแจกโดนัทก่อนเกมที่พบกับเซาแธมป์ตัน เพื่อฉลองวันเกิดประธานวิชัยในวันที่อายุครบ 58 ปี คือสิ่งที่กลายเป็นข่าวดังของสโมสรแห่งนี้ ถึงความสนิทใกล้ชิดกับแฟนบอล

 

ไม่ใช่เพียงแค่ในเกมเหย้าเท่านั้น แต่สำหรับเกมที่แฟนบอลต้องออกไปเยือน พวกเขาจะได้รับอาหารเช้า เสื้อยืด และผ้าพันคอในเกมที่เลสเตอร์ฯ ออกไปเยือนทีมอื่น

 

ขณะที่ผลงานในสนามนั้น เลสเตอร์ ซิตี้ใช้เวลาเพียง 6 ปี นับตั้งแต่การชูเสื้อเลสเตอร์ ซิตี้ของวิชัย จนถึงวินาทีที่สมาชิกของทีมเลสเตอร์ ซิตี้รวมตัวกันในบ้านของ เจมี วาร์ดี ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของสโมสรในรอบ 132 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาตั้งแต่ปี 1884

 

บทพิสูจน์ของเลสเตอร์ ซิตี้ในสนาม กับเทพนิยายที่กลายเป็นจริง

 

 

ในช่วงท้ายฤดูกาล 2014/15 เลสเตอร์ ซิตี้สร้างปาฏิหาริย์ครั้งแรกด้วยการรอดการตกชั้น โดยใน 9 เกมสุดท้ายของฤดูกาล ภายใต้การคุมทีมของ ไนเจล เพียร์สัน ทีมสามารถเก็บชัย 7 นัด เสมอ 1 นัด และแพ้เพียงแค่ 1 นัด รอดพ้นจากการตกชั้นจากลีกสูงสุดที่สโมสรเพิ่งก้าวขึ้นมาสัมผัสเพียงปีแรก

 

ปีต่อมาเกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้น เริ่มจากการดึงตัว เคลาดิโอ รานิเอรี ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียน ที่เพิ่งล้มเหลวจากการคุมทีมกรีซ แพ้เกาะแฟโร เข้ามาคุมทีม พร้อมกับนักเตะอย่าง เจมี วาร์ดี, เอ็นโกโล ก็องเต, ชินจิ โอกาซากิ และริยาด มาห์เรซ ซึ่งทั้งหมดเคยผ่านจุดที่ผู้คนบอกว่า พวกเขาไม่ดีพอสำหรับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

 

ทุกองค์ประกอบแห่งความล้มเหลวของนักเตะ ผู้จัดการทีม และเจ้าของสโมสรที่ถูกขนานนามในวันแรกที่เข้ามาเป็นเจ้าของทีมว่า เป็นเพียงอีกหนึ่งของเล่น ทำให้หลายฝ่ายขาดความเชื่อมั่นในผู้คนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะบ่อนรับพนันแบบถูกกฎหมายที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งตั้งอัตราต่อรองไว้ที่ 5,000:1 ที่พวกเขาจะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2015/16 อัตราต่อรองนี้สูงขนาดไหน? ตอบสั้นๆ ‘แทบเป็นไปไม่ได้’

 

 

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น สโมสรเล็กๆ จากภาคกลางของเกาะอังกฤษ กลายเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษในฤดูกาลนั้น จนนำไปสู่การเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วเมืองเลสเตอร์

 

การเฉลิมฉลองเริ่มต้นจากรถบัสฉลองแชมป์ที่ประเทศอังกฤษ ยาวจนมาถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2016

 

จนถึงทุกวันนี้ เมื่อคุณต้องการค้นหาเรื่องราวที่น่ามหัศจรรย์​และเหลือเชื่อที่สร้างแรงบันดาลใจ จากการสร้างความฝันในสิ่งที่ดูเป็นไปไม่ได้ให้กลายเป็นความจริง คำว่า The Fairy Tale of Underfox จะอยู่ไม่ไกลจากสิ่งที่คุณค้นหาอย่างแน่นอน

 

ความสำเร็จที่นำพาคนไทยกับเมืองเลสเตอร์เข้าใกล้กันมากขึ้น

 

 

เช้าของวันที่ 29 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้า ที่เมืองเลสเตอร์และประเทศไทยต้องสูญเสียผู้ที่ช่วยสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยในเวทีโลก ทั้งความเป็นกันเองและการบริหารสโมสรด้วยการสร้างมิตรภาพ

 

ความสำเร็จที่วิชัยได้สร้างไว้ ผ่านโครงการพัฒนาเยาวชน ความสำเร็จในพรีเมียร์ลีก และการสนับสนุนชุมชนทั้งไทยและอังกฤษนี้เอง ทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างคนไทยและผู้คนในเมืองเลสเตอร์

 

ตัวผู้เขียนเองไม่เคยมีโอกาสได้เดินทางไปยังเมืองเลสเตอร์ แต่ในช่วงเวลาที่เลสเตอร์ฯ เดินทางมาเมืองไทย เรามีโอกาสได้พบกับนักข่าวของ beIN SPORTS ที่มีชื่อว่า เบน เจคอบส์ เขาเป็นผู้สื่อข่าวที่มีประสบการณ์กว่า 20 ปี และเป็นคนเมืองเลสเตอร์ที่เดินทางมาทำข่าวการฉลองแชมป์ของสโมสร และนั่นคือวันแรกที่เราได้รู้จักจนสนิทกันมาถึงทุกวันนี้ เหมือนกับคนไทยหลายๆ คน ที่มีโอกาสได้เดินทางไปเมืองเลสเตอร์ ซึ่งต่างก็ยอมรับว่า ผู้คนในเมืองเลสเตอร์ให้การต้อนรับคนไทยด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง

 

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราจึงตัดสินใจสอบถามไปทางเบน ถึงสิ่งที่วิชัยได้สร้างไว้ให้กับเมืองเลสเตอร์ จากมุมมองของผู้ที่อยู่ร่วมบันทึกความสำเร็จมาตลอดเส้นทางของเทพนิยายเรื่องนี้

 

ได้พบเจอกับคุณวิชัยครั้งแรกที่ไหน

ผมเจอกับคุณวิชัยครั้งแรกในงานโปโลช้างที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2009 ก่อนที่จะพบกันอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ปี 2010 เมื่อเขาเข้ามาเป็นเจ้าของสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ แพสชันที่เขามีต่อฟุตบอล และความตั้งใจที่จะเปลี่ยนสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ให้กลายเป็นทีมมหาอำนาจ เป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุดที่พบเห็นจากเขา ก่อนหน้านี้คุณวิชัยไม่ได้พูดภาษาอังกฤษมากนัก แต่เขาก็สามารถสื่อความเป็นมิตรจากรอยยิ้มที่อบอุ่นของเขาได้เสมอ

 

เขาเปลี่ยนแปลงเมืองเลสเตอร์ไปอย่างไรบ้าง

คุณวิชัยไม่ได้แค่ช่วยสโมสรไว้ แต่เขานำพาสโมสรไปสู่เทพนิยายแห่งความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการกีฬา เขานำพาเลสเตอร์ฯ ขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก เคลียร์หนี้สโมสรที่มีมูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ ในระหว่างนั้นเขาสร้างเลสเตอร์ฯ ให้กลายเป็นแบรนด์สากล และจากการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกที่น่าเหลือเชื่อในฤดูกาล 2015/16 เขาได้มอบความทรงจำที่พวกเราไม่มีวันลืม  

 

คุณวิชัยยังได้ลงทุนในองค์กรการกุศลในพื้นที่ด้วยเม็ดเงินหลายล้านปอนด์ ตำนานของเขาจะยังคงยืนหยัดอยู่ทั้งในและนอกสนามฟุตบอล

 

คุณวิชัยมีส่วนสำคัญอย่างไรต่อความสำเร็จของเลสเตอร์ฯ ในปี 2016

คุณวิชัยมีส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ปี 2016 ตั้งแต่การตัดสินใจของเขาในการเซ็นสัญญาคว้าตัว เคลาดิโอ รานิเอรี ผู้จัดการทีมชาวอิตาเลียน ซึ่งเป็นการแต่งตั้งผู้จัดการทีมที่ไม่มีใครเชื่อมั่นในเวลานั้น แต่สุดท้ายกลายเป็นการตัดสินใจที่สร้างแรงบันดาลใจไปทั่ววงการ เขายังได้เปลี่ยน เจมี วาร์ดี จากคนที่ประสบปัญหาติดเหล้า ให้กลายเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงอีกครั้ง  

 

คุณวิชัยและคุณต๊อบได้คุยกับศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ จนพาเขากลับมาคืนฟอร์ม รวมถึงการนำพระมาจากวัดภูเขาทองในกรุงเทพฯ แม้ว่าจะดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติ แต่ก็สามารถนำพาโชคมาให้กับพวกเรา เนื่องจากพระเหล่านั้นได้ให้พรกับนักเตะก่อนลงสนามทุกเกม

 

แม้ว่าจะไม่มีผลโดยตรงต่อเกมและผลการแข่งขัน แต่สิ่งนี้ได้สร้างความรู้สึกที่อบอุ่น เบื้องหลังการทำงานของสโมสรที่ช่วยเป็นแรงผลักดันในการสร้างผลงานในสนามได้

 

คุณวิชัยจะเป็นตำนานของสโมสรและเมืองเลสเตอร์ในรูปแบบไหน

 

 

ตำนานของคุณวิชัยจะอยู่ไปตลอดกาล อย่างแรก ทุกคนจะจดจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันที่เราคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2015/16 คิง เพาเวอร์ไม่ได้หายไปไหน ดังนั้น ต๊อบ-อัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา รองประธานสโมสรของเลสเตอร์ ซิตี้ จะก้าวขึ้นมาทำหน้าที่ต่อ

 

ตอนนี้เริ่มมีการพูดคุยกันที่สนามแล้วว่า จะเปลี่ยนชื่อสนามกีฬาเป็น Khun Vichai Stadium และเริ่มก่อสร้างรูปปั้นหน้าสนาม เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่คุณวิชัย

 

เขาจะถูกจดจำในฐานะคนที่มีความใจกว้าง ถ่อมตัว และทะเยอทะยาน เขาเป็นที่รักของเลสเตอร์ฯ ไม่ใช่แค่เพียงความทรงจำที่เขาได้มอบไว้ในสนาม แต่เพราะความเอาใจใส่และความห่วงใยนอกสนาม

 

เขาเคยมอบตั๋วฤดูกาลฟรี 60 ใบในวันเกิดครบรอบอายุ 60 ปีของเขา เมื่อเดือนเมษายน เขาบริจาคเงิน 2 ล้านปอนด์ ให้กับโรงพยาบาลเด็ก และที่ใดก็ตามที่เขาไป เขาจะมีเวลาที่จะหยุดและส่งรอยยิ้ม ความสุข และแพสชัน ให้กับผู้คนรอบข้างเสมอ

 

ข้อความการแสดงความเสียใจด้วยความเคารพจากผู้คนทั่วทั้งวงการฟุตบอล เลสเตอร์ ซิตี้ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่วิชัยมีต่อการลงทุนสร้างความสำเร็จของสโมสรเลสเตอร์ฯ ที่เป็นมากกว่าแค่เรื่องราวความสำเร็จ แต่เป็นตัวตนของเขาที่ทุกคนในเมืองมีโอกาสได้สัมผัสอย่างใกล้ชิด จนกลายเป็นตำนานที่จะอยู่คู่กับสโมสรและสถานที่แห่งนี้ ในฐานะผู้ที่สร้างฝันของเลสเตอร์ฯ ให้กลายเป็นจริง

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X