ตำรวจอาร์เจนตินาจับกุมชายคนร้ายที่พยายามก่อเหตุลอบสังหารรองประธานาธิบดี คริสตินา เฟอร์นันเดซ เดอ เคิร์ชเนอร์ ในระหว่างการทักทายกับกลุ่มผู้สนับสนุนที่บริเวณหน้าบ้านพักของเธอเมื่อวานนี้ (1 กันยายน) โดยคนร้ายได้แฝงตัวมากับฝูงชน ก่อนจะควักปืนพกขึ้นมาจ่อเข้าที่ใบหน้าของเดอ เคิร์ชเนอร์ ในระยะประชิด และลงมือลั่นไก แต่โชคดีที่ปืนติดขัดและกระสุนไม่ลั่น
เหตุลอบสังหารอุกอาจดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่ประชาชนอาร์เจนตินาทั่วประเทศ โดยประธานาธิบดี อัลเบร์โต เฟร์นันเดซ แถลงผ่านทางโทรทัศน์ในคืนวันเดียวกัน ระบุว่า มือปืนได้บรรจุกระสุนไว้ 5 นัด แต่กระสุนไม่ลั่น
“คริสตินายังมีชีวิตอยู่ เพราะเหตุผลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันในทางเทคนิค ปืนซึ่งมีกระสุน 5 นัด ไม่ถูกยิงออกมา” เขากล่าว พร้อมประณามการกระทำของมือปืน และชี้ว่าเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดของประเทศนับตั้งแต่กลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตยในปี 1983
สื่อท้องถิ่นของอาร์เจนตินารายงานว่า มือปืนรายนี้เป็นชายชาวบราซิล วัย 35 ปี ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการควบคุมตัวของตำรวจเพื่อสอบสวน แต่ยังไม่มีรายงานว่าอะไรเป็นแรงจูงใจในการก่อเหตุ
ขณะที่คลิปวิดีโอวินาทีเกิดเหตุถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็วทางโซเชียลมีเดีย และก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงการรักษาความปลอดภัยแก่รองประธานาธิบดีหญิง เนื่องจากคนร้ายสามารถเข้าประชิดตัวและจ่อปืนใส่เธอได้ในระยะห่างเพียงไม่กี่นิ้ว ซึ่งคลิปวิดีโอในอีกมุมหนึ่งยังเผยให้เห็นฝูงชนที่พยายามเข้าช่วยด้วยการขวางเดอ เคิร์ชเนอร์ ออกจากมือปืน
ด้านโฆษกสำนักงานตำรวจอาร์เจนตินาเปิดเผยต่อสำนักข่าว Reuters ว่า ปืนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุถูกพบห่างจากจุดที่ลงมือยิงไปไม่กี่เมตร หลังจากที่ตำรวจจับกุมคนร้ายไว้ได้
เหตุลอบสังหารเดอ เคิร์ชเนอร์ เกิดขึ้นในช่วงที่เธอกำลังถูกไต่สวนในคดีพัวพันการคอร์รัปชันด้วยการฉ้อโกงรัฐและมอบสัญญางานของรัฐอย่างฉ้อฉล ในระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงปี 2007-2015 โดยกลุ่มผู้สนับสนุนเธอพากันไปชุมนุมที่หน้าบ้านพักเพื่อให้กำลังใจอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
ขณะที่หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เธออาจเผชิญกับโทษจำคุก 12 ปี และถูกแบนจากการเมืองตลอดชีวิต
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเดอ เคิร์ชเนอร์ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ทำให้มีเอกสิทธิ์คุ้มครอง และจะไม่ถูกจำคุกจนกว่าคำพิพากษาโทษของเธอจะผ่านการรับรองโดยศาลฎีกา หรือจนกว่าเธอจะสูญเสียตำแหน่งประธานวุฒิสภาในการเลือกตั้งรอบหน้าช่วงปลายปี 2023
ภาพ: Tomas Cuesta / Getty Images
อ้างอิง: