เวเนซุเอลาประกาศลดค่าเงินและขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 3,000% เพื่อกอบกู้วิกฤตเศรษฐกิจ หลังประชาชนหลายแสนคนอพยพหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน จนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาค
หลายคนอาจสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในเวเนซุเอลา ทำไมประเทศซึ่งเคยร่ำรวยจากน้ำมันจึงต้องตัดสินใจดำเนินมาตรการอย่างเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ
- เศรษฐกิจเวเนซุเอลาเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นปีที่ 4
- นักเศรษฐศาสตร์ IMF คาดอัตราเงินเฟ้อจะพุ่งแตะ 1,000,000% ในปีนี้
- ประชาชนขาดแคลนอาหาร ยา และของใช้จำเป็น
- ระบบบริการสาธารณะหลายส่วนหยุดให้บริการ
- เงินโบลิวาร์ด้อยค่า ซื้อไก่ 1 ตัวต้องใช้เงิน 14.6 ล้านโบลิวาร์
- หนี้ต่างประเทศพุ่งแตะ 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
- รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเกือบ 20% ของ GDP
- มีรายได้ 96% จากน้ำมัน แต่ปัจจุบันผลิตน้ำมันได้เพียง 1.4 ล้านบาร์เรล/วัน ต่ำสุดในรอบ 30 ปี จากที่เคยผลิตได้ 3.2 ล้านบาร์เรล/วันเมื่อ 10 ปีก่อน
- ประชาชนอพยพหนีไปเอกวาดอร์แล้ว 400,000 คนในปีนี้ และมีอีกส่วนไหลทะลักเข้าบราซิลจนเกิดปัญหาความไม่สงบ
- รัฐบาลหันมาใช้สกุลเงินใหม่ Sovereign Bolivar ที่ผูกติดมูลค่ากับเปโตร ซึ่งเป็นสกุลเงินเข้ารหัส (Cryptocurrency) ของเวเนซุเอลาที่อิงกับราคาน้ำมันในประเทศ
- 1 เปโตร มีค่า 60 เหรียญสหรัฐ หรือ 3,600 Sovereign Bolivar
- อัตราแลกเปลี่ยนจากเดิม 250,000 โบลิวาร์/1 เหรียญสหรัฐ เป็น 6,000,000 โบลิวาร์/1 เหรียญสหรัฐ เทียบเท่าการลดค่าเงินเดิมลง 96%
- รัฐบาลปรับเพิ่มฐานค่าแรงขั้นต่ำ 3,000% เป็น 1,800 Sovereign Bolivar/เดือน หรือ 30 เหรียญสหรัฐ/เดือน จากเดิมเดือนละ 1.8 ล้านโบลิวาร์
ภาพประกอบ: Thiencharas W.