วันนี้ (24 ธันวาคม) วีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เดินทางมายังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องอดีตผู้บริหารระดับสูงและข้าราชการรวม 4 ราย
ประกอบด้วย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี, พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, กษิต ภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงพนมเปญ ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วีระระบุว่า การยื่นฟ้องในครั้งนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อปี 2553 ขณะที่ตนและ ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ลงพื้นที่บริเวณบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งยืนยันว่าเป็นเขตอธิปไตยของไทย แต่กลับถูกกองกำลังทหารกัมพูชาใช้อาวุธสงครามเข้าควบคุมตัวและนำตัวไปดำเนินคดีในศาลกัมพูชา
โดยถูกคุมขังในเรือนจำเปรัยซอว์ กรุงพนมเปญ เป็นเวลานานหลายปี ซึ่งตนถูกตัดสินจำคุก 8 ปี (จำคุกจริง 3 ปี 6 เดือน 3 วัน) ส่วนราตรีถูกตัดสินจำคุก 6 ปี (จำคุกจริง 2 ปี 1 เดือน)
โจทก์ชี้แจงว่า จำเลยทั้ง 4 ราย ในฐานะผู้มีหน้าที่รับผิดชอบในขณะนั้น กลับละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องสิทธิและอธิปไตยของประชาชนชาวไทย จนเป็นเหตุให้ตนและราตรีได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง พร้อมยืนยันว่าจุดที่ถูกจับกุมคือพื้นที่ทำกินของคนไทย แต่ฝ่ายกัมพูชาพยายามบิดเบือนภาพเหตุการณ์ว่ามีการรุกล้ำแดน
เมื่อถามถึงประเด็นที่ว่าการยื่นฟ้องครั้งนี้เป็นเกมการเมืองในช่วงเลือกตั้งหรือไม่ วีระกล่าวปฏิเสธ โดยระบุว่าเป็นการดำเนินการตามกรอบอายุความทางกฎหมาย ส่วนการที่จำเลยบางท่านกำลังลงสมัครรับเลือกตั้งนั้นถือเป็นเหตุบังคับทางการเมืองที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
พร้อมย้ำว่าสถานการณ์ที่บ้านหนองจานในปัจจุบันยังคงมีการเผชิญหน้ากันอยู่ ซึ่งหากไม่ใช่ดินแดนไทย ทหารไทยคงไม่ต้องปฏิบัติหน้าที่ป้องกันอธิปไตยอย่างเข้มงวดเช่นนี้
นอกจากนี้ วีระยังได้แสดงความกังวลต่อการทำงานของคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) โดยมองว่าที่ผ่านมาฝ่ายไทยมักเสียเปรียบและไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมยกตัวอย่างข้อตกลงสันติภาพเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่ฝ่ายกัมพูชาไม่ได้ถอนทหารตามข้อตกลง แต่กลับมีการเพิ่มกำลังและวางทุ่นระเบิดจนทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส
วีระให้ความเห็นทิ้งท้ายว่า สันติภาพที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อกองทัพไทยแสดงศักยภาพในการปกป้องพรมแดนอย่างเด็ดขาด เพื่อมิให้มีการล่วงละเมิดอธิปไตยซ้ำซาก ก่อนที่จะมีการเจรจาในระดับต่อไป
ภายหลังการยื่นคำฟ้อง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางได้รับคำฟ้องไว้พิจารณาในชั้นตรวจคำฟ้อง โดยมีกำหนดนัดฟังคำสั่งว่าจะรับเป็นคดีหรือไม่ ในวันที่ 27 มกราคม 2569 เวลา 09.00 น.


