“ตกลงแล้วใครได้ถ่ายฟุตบอลไทย”
คำถามนี้เป็นคำถามที่ดังขึ้นเสมอไม่ใช่เฉพาะกับแฟนบอล แต่รวมถึงหมู่คนวงการฟุตบอล ไม่ว่าเป็นผู้สื่อข่าวหรือแม้กระทั่งในกลุ่มคนวงในที่สุดอย่างเหล่าพิธีกร และนักวิเคราะห์ทางหน้าจอโทรทัศน์ ที่ไม่เคยมีใครให้คำตอบได้
มีเพียงสายตาที่ว่างเปล่า แทนคำตอบว่าเราต่างก็ไม่รู้เหมือนกัน
เรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยจึงเป็นปริศนาอยู่พักใหญ่ โดยระหว่างนั้นมีการคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าเจ้านั้นจะได้ เจ้านี้จะได้ ก่อนที่สุดท้ายจะมีการเปิดเผยว่า Zense Entertainment เป็นผู้คว้าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดไปครอง และทำให้เกิดคำถามตามมาอีกมากมาย
ลำพังด้วยระยะเวลาตามสัญญา 8 ปีก็น่าคิดตามอยู่แล้ว ตัวเลขที่ต้องจ่ายให้แก่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่สูงถึงกว่า 12,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่หลายคนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองก็ยิ่งน่าตกใจแทน เพราะตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสิ่งที่เป็นคำถามในหมู่คนลูกหนังไทยคือ ฟุตบอลไทยกำลังเฟ้อเกินไปหรือไม่ ประเมินมูลค่าตัวเองสูงเกินไปหรือเปล่า
ที่สำคัญที่สุดคือ Zense Entertainment ถึงจะไม่ใช่หน้าใหม่ในวงการโทรทัศน์เมืองไทย แต่พวกเขาก็ไม่ได้ถึงกับเก่านัก และหนักกว่านั้นคือยังไม่เคยจับธุรกิจในวงการกีฬามาก่อนเลย
‘บอลไทย 6 ฉาก’ เสียงแซวหนักข้อจากคนในวงการที่คุ้นชินกับรายการบันเทิงยอดนิยมรายการหนึ่งของ Zense
แต่สิ่งที่น่าสนใจที่ซ่อนอยู่ใต้เสียงหัวเราะคือ อะไรที่ทำให้พวกเขากล้าและบ้าบิ่นได้ถึงขนาดนี้
เรื่องนี้ไม่มีใครจะตอบคำถามได้ดีกว่า เอ-วราวุธ เจนธนากุล ประธานกรรมการบริษัท Zense Entertainment คนที่มองเห็นคุณค่า และมูลค่าของวงการฟุตบอลไทยในมุมที่แตกต่างจากคนอื่น
และดูเหมือนเขาจะรู้ว่าสิ่งที่เขาถนัดจะช่วยวงการฟุตบอลไทยได้อย่างไร
เกิดอะไรขึ้น ทำไม Zense ถึงตัดสินใจกระโดดลงมาในสนามนี้
ผมชอบฟุตบอล เล่นฟุตบอล และผูกพันกับเกมฟุตบอลพอสมควร โดยส่วนตัวผมอาจจะรู้จักฟุตบอลต่างประเทศมากกว่าฟุตบอลไทย แต่ก็เริ่มสนใจฟุตบอลไทยมาหลายปี สำหรับฟุตบอลไทยเราทำการบ้านมาตั้งแต่ 4 ปีที่แล้ว เราเคยคิดรายการที่คิดว่าน่าจะส่งเสริมความนิยมฟุตบอลไทยได้มากขึ้น แต่ตอนนั้นไม่มีโอกาสทำ แต่พอปีนี้มีโอกาสจะได้เข้าประมูล เราก็ศึกษาในแง่ที่จะคิดคอนเทนต์ให้ส่งเสริมความนิยม เพื่อให้คนกลับมาดูการถ่ายทอดสด มันเป็นองค์ประกอบที่วิ่งไปด้วยกัน ก็เลยตัดสินใจที่จะทำในจุดนี้
ตัวเลขการลงทุนสูงมากสำหรับฟุตบอลไทย มันมีโอกาสที่จะคุ้มค่าการลงทุนไหม
ต้องบอกทีละขั้นแล้วกัน ก่อนอื่นแพ็กเกจนี้เป็นแพ็กเกจที่ค่อนข้างใหญ่ คือรวมทุกอย่างเลยนะครับ ฟุตบอล T1-T3, ฟุตบอลเอฟเอคัพ, ลีกคัพ, ทีมชาติทั้งประเภทชายและหญิงทุกชุด รวมถึง E-Sport รวมถึงแฟนตาซีลีก แพ็กเกจนี้ถ้าไปเทียบตรงๆ อาจจะเทียบไม่ได้แบบนั้นนะครับ แต่ก็เป็นมูลค่าที่เรามั่นใจว่าฟุตบอลไทยจะพัฒนายิ่งขึ้น เพราะจากวันนี้ไปเราจะอยู่กับฟุตบอลไทยไปอีก 8 ปี
ถามว่าในแง่ของผู้ลงทุนการจ่ายต่ำที่สุดเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่ถ้าเราจ่ายต่ำแล้ววงการฟุตบอลมันพัฒนาไปได้หรือเปล่า หลักการมันคือถ้าฟุตบอลลีกแข็งแรง ลีกในประเทศแข็งแรง ฟุตบอลทีมชาติก็จะแข็งแรงไปด้วย และถ้าฟุตบอลทีมชาติแข็งแรงก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จในทัวร์นาเมนต์ต่างๆ หรือแม้กระทั่งประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทุกคนฝันว่าทีมชาติไทยจะมีโอกาสได้ไปฟุตบอลโลกบ้าง
ไม่รู้สึกว่าแพงเกินไป?
ถามว่าตัวเลขนั้นเราเหนื่อยไหม เราก็ต้องเหนื่อย แต่มันต้องเป็นความเหนื่อยบนทิศทางที่มีโอกาสที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้น ถ้าเราไม่ช่วยกันทำแล้วใครจะช่วยกันทำผมก็นึกไม่ออก ถ้าเรามองแค่ถ่ายทอดสดผมคงไม่ใส่ตัวเลขนี้ แต่ถ้าผมมองว่าฟุตบอลคือคอนเทนต์แล้วเราจะเอาคอนเทนต์ฟุตบอลมาสร้างคอนเทนต์อื่นๆ ที่ทำให้ฟุตบอลมีความน่าสนใจมากขึ้น ผมว่าผมก็ให้ Value คนละแบบ
ผมคิดบนพื้นฐานว่าทำอย่างไรบอลลีกจึงจะแข็งแรง มันต้องใช้ต้นทุนเท่าไรเพื่อให้ใน 8 ปีหลังจากนี้ผมจะได้เมล็ดพันธุ์ที่ดี ถามว่าผมจะกดราคาได้ไหม ทุกคนช่วยกันกดราคาได้ไหม เราจะได้ซื้อในราคาถูก แต่ผมบอกเลยว่าบอลมันจะไปไม่ได้ เหมือนเราได้เมล็ดพันธุ์แคระๆ แกร็นๆ ที่รดน้ำพรวนดินอย่างไรมันก็ไปไม่ถึง
ให้เปรียบเทียบก็เหมือนผมซื้อต้นไม้ ต้นไม้ต้นนี้ฟอร์มดีนะ แต่คิดว่าถ้าใส่ปุ๋ย รดน้ำดีๆ พรวนดินดีๆ เอาพรีเซนเตอร์มายืนถ่ายรูปด้วย เอาหลายๆ อย่างมาแต่งมันจะมีมูลค่ามากกว่านี้อีก แล้วมูลค่านี้ผมตั้งจากว่า ทำอย่างไรให้ทีมชาติไทยไปฟุตบอลโลกได้ แปลว่าบอลลีกต้องแข็งแรง เพราะไม่มีทีมชาติไหนในโลกที่ได้ไปฟุตบอลโลกโดยที่ฟุตบอลลีกไม่แข็งแรง สองอย่างนี้มันต้องไปด้วยกัน ดังนั้นเราต้องใส่ตัวเลขที่ทำให้เขายืนด้วยตัวของเขาเองได้
จากการที่โดยส่วนตัวที่คุณมีประสบการณ์ในด้านของการทำงานด้านการเงินมาก่อน มองเรื่องของโมเดลในการหารายได้ในอนาคตอย่างไร
โมเดลในการหารายได้ของกีฬาวันนี้ ผมมองว่ากีฬามันต้องใช้เวลาในการดูมากขึ้น มันไม่ใช่ดูแค่ในสนาม สมัยก่อนเราดูกัน 90 นาที กับพักครึ่งอีก 15 นาทีแค่นั้น แต่สมัยนี้เราดูกันตั้งแต่ 1 ชั่วโมงก่อนการแข่งขัน ข้อมูล 11 ตัวจริงของแต่ละทีมออกมาแล้ว คุณเริ่มคุยกันได้ตั้งแต่ตรงนั้นเลยว่ามันตรงกับสิ่งที่คุณคาดหวังไหม วิเคราะห์กันตั้งแต่ตรงนั้นเลยใน 1 ชั่วโมงก่อนการแข่งขัน เพื่อให้คุณได้เตรียมตัวดูฟุตบอลอย่างสนุกขึ้น พอจบเกมก็มาวิเคราะห์กันต่อ พูดง่ายๆ คือการดูฟุตบอล 1 คู่ใช้เวลา 2 ชั่วโมงของการแข่งขัน บวกกับการวิเคราะห์ก่อนเกม 1 ชั่วโมง หลังเกมอีกครึ่งชั่วโมง คู่หนึ่งเราใช้เวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง
ในแง่ของคอฟุตบอลต่างประเทศเริ่มดูกันตั้งแต่ 6 โมงเย็นจบเอาตี 2 หรือตี 4 เป็นธรรมดา ฟุตบอลไทยก็ควรจะเป็นแบบนั้น และเวลาก็จะดีขึ้นด้วย เพราะการมาดูตี 2 ถึงตี 4 ทุกอาทิตย์คงจะเหนื่อยเหมือนกัน สำหรับบอลไทยผมเชื่อว่าด้วยช่วงเวลาและอะไรหลายๆ อย่าง จะทำให้เข้าถึงบอลไทยได้มากขึ้นครับ
คุณชอบฟุตบอลต่างประเทศ แล้วมองเสน่ห์ฟุตบอลต่างประเทศกับฟุตบอลไทยต่างกันอย่างไร
พอผมได้มาศึกษาอย่างจริงจังแล้วต้องบอกว่า ฟุตบอลไทยนี่เล่นแบบเอ็นเตอร์เทนนะ ถึงลูกถึงคน เรียกว่าวัดกันเลย มีความสนุกสนานสำหรับคนดู สิ่งที่ขาดหายไปมันคือการเล่าเรื่องมากกว่า สิ่งที่ขาดหายไปคือเรื่องของสถิติ สิ่งที่ขาดหายไปคือการเติมแต่งที่จะทำให้การถ่ายทอดสดมันดูเป็นนานาชาติมากขึ้น ซึ่งเป็นจุดที่ทาง Zense เราถนัด เพราะเราทำรายการโทรทัศน์ซึ่งมันคือการเล่าเรื่อง คือการที่เอาเรื่องที่คนเคยเล่ามาแล้ว เคยทำมาแล้ว แต่มาทำให้ดูทันสมัยมากขึ้น ทำให้ชวนติดตามมากขึ้น
ไทยลีกไม่เคยมี Interlude สวยๆ เหมือนฟุตบอลเมืองนอก ทั้งๆ ที่ทุกอย่างมันควรจะต้องถูกบิลด์อัป มันคือการเล่าว่าคนอินกับสโมสรอย่างไร พวกนี้สำคัญหมดเลยนะในแง่ของการเล่าเรื่อง เพราะมันคือการถ่ายทอดอารมณ์ออกมา ไม่ใช่เล่าแค่ว่าทีมนี้เจอทีมนี้ซึ่งมันเก่าเกินไป ตอน 30 ปีก่อนก็เล่าแบบนี้แหละ เพราะมันไม่มีอะไรให้เล่า มาถึงก็แข่งกันเลย
แต่วันนี้มันต้องมีการเล่าเรื่อง ทำไมคู่นี้คุณถึงต้องควรดู คู่นี้มันคู่รักคู่แค้นกันขนาดไหน คู่นี้ผูกปีแพ้มาตลอดเลย แต่นัดนี้จะเปลี่ยนมาชนะได้ไหม ฝรั่งเขาเล่าแบบนี้ ต่อให้แบเบอร์เขาก็จะหามุมเล่าอีกแบบ ยกเหตุผลมาประกอบ 1, 2, 3, 4 คุณถึงจะเชียร์ วันนี้เรานั่งดูฟุตบอลอังกฤษ บางทีมต่อให้ไม่ได้เชียร์ แต่พอเขาเล่ามาแบบนี้ เรานั่งดูก็ได้
วิธีเล่าเรื่องแบบไหนที่จะนำมาปรับใช้ให้ประสบความสำเร็จกับประเทศไทยได้
หลักการง่ายๆ เลยครับ เราชื่นชอบฟุตบอลอังกฤษ แปลว่าเราชอบชื่นชอบวิธีการเล่าแบบเขา เพราะเราชอบสไตล์การเล่นแบบเขา สังเกตว่าลีกอื่นๆ ได้รับความนิยมน้อยรองๆ ลงไป เพราะสไตล์อาจจะไม่ถูกใจเรา บางประเทศแท็กติกจ๋าเหลือเกิน เล่นกันแบบ ถ้าภาษาเราคือบางคู่ดูแล้วหลับ แต่เราสังเกตบอลอังกฤษ เล่นเอ็นเตอร์เทน ทุกวินาทีลุ้นได้เลย เหลือนาทีสุดท้าย 30 วินาทีสุดท้ายอาจจะมีการทำประตูเกิดขึ้นก็ได้ ดังนั้นเอาหลักการง่ายๆ ผมว่าเล่าแบบอังกฤษจะดีกว่า
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นโลกฟุตบอลสมัยใหม่ โลกกีฬาสมัยใหม่ มันต้องไปคู่กับสถิติ การมีสถิติที่ดีมากขึ้น มันทำให้มีเรื่องเล่ามากขึ้น มีอะไรให้ติดตามมากขึ้น อย่างง่ายๆ เลย ไทยลีกที่ผ่านมาข้อมูลอาจจะน้อยไป หลังจากนี้ไปเราจะมีทีมเก็บสถิติให้คุณได้เล่า ให้คุณได้ลุ้น เพราะกีฬาสด คุณต้องลุ้นไปด้วย และคุณต้องรู้ว่าคุณจะลุ้นอะไร ลุ้นให้ทีมนี้ชนะ ลุ้นให้ทีมนี้เสมอเป็นอย่างน้อย นี่คือสิ่งที่คนกีฬา คนดูฟุตบอลน่าจะติดตาม
Sportainment ที่คุณเคยพูด จริงๆ แล้วมีความหมายอย่างไร
คำว่า Sportainment ก็คือการนำคำว่า Sport รวมกับ Entertainment ซึ่งคำว่า Entertainment นั้นบางคนเข้าใจว่าหมายถึงสนุก หรือตลก แต่จริงๆ แล้ว Entertainment มีหลากหลายมุมมาก ไม่ว่าจะเรื่องราวต่างๆ ดราม่า ความซึ้ง ความรัก
Zense ทำรายการที่ครอบคลุมถึงคำว่า Entertainment เรามีเกมโชว์ที่ให้ความรู้ เรามีวาไรตี้โชว์ เรามีประกวดร้องเพลง เรามีวาไรตี้เกมโชว์ที่เกี่ยวกับความรัก เรามีตลก เหล่านี้คือองค์ประกอบหลักๆ ของคำว่า Entertainment เพราะฉะนั้นเราจะจับเอาองค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้มาคู่กับ Sport เพราะ Sport มีความตื่นเต้น มีความเร้าใจ มีนักกีฬาที่มีความสามารถ บางท่านหน้าตาดีด้วยซ้ำไป การนำบุคลากรเหล่านี้มาบวกกับองค์ประกอบรายการที่เรามีอยู่ มันก็จะสะท้อนกลับไปที่คำว่า Sportainment
ฟุตบอลไทยจะเป็นไลฟ์สไตล์มากขึ้น มีความเป็นเอ็นเตอร์เทนมากขึ้น ซึ่งจะไม่ได้มีแค่เรื่องตลก แต่มันมีหลากหลาย มีดราม่า เหมือนที่ให้ เจ-ชนาธิป สรงกระสินธ์ โฟนอินมาพูดกับพ่อในรายการ ใครดูก็น้ำตาไหล เพราะกว่าเขาจะประสบความสำเร็จมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ มันคือการสร้างแรงบันดาลใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เดี๋ยวคุณจะได้เห็นฟุตบอลไทยในอีกหลายมุม
และแน่นอนการที่นักกีฬาที่เป็นที่รู้จักในหมู่คนดูกีฬามาเปิดตัวให้กับประชาชนทั่วไปได้รับทราบ ได้รู้จัก ผมว่าอันนี้เป็นการเปิดประตูให้ตัวเขาเองมีชื่อเสียง มีผู้ติดตามมากขึ้น
จะเป็นผลดีต่อนักกีฬา?
สิ่งเหล่านี้มันหมุนไปด้วยกัน อนาคตผมก็อยากเห็นนักฟุตบอลเป็นเซเลบริตีเหมือนในต่างประเทศ นักฟุตบอลมีอิทธิพลต่อทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ ทั้งในแง่ของการให้กำลังใจ แรงบันดาลใจกับเด็กๆ ในการจะโตขึ้นมาเป็นนักกีฬาได้ด้วย นี่คือสิ่งที่เราคาดหวังเหมือนกัน กับการเอาสิ่งที่เราถนัดอยู่แล้วมารวมกับกีฬา มารวมกับนักกีฬา มันจะเป็นมิติใหม่ๆ
ถ้านักฟุตบอลมีฐานคนดูมากขึ้น เพราะเรามองกลุ่มว่า ถ้าเราขยายฐานคนดูในแต่ละกลุ่มได้มากขึ้น มูลค่าของการถ่ายทอดสดก็จะเพิ่มขึ้น เพราะคนนิยมกลับมาดูการถ่ายทอดสดมากขึ้น
พูดถึงฟุตบอลต่างประเทศ ในหลายประเทศจะมีกฎระบุเอาไว้ว่า ห้ามถ่ายทอดสดในบางช่วงเวลา เพื่อป้องกันปัญหาคนไม่เข้าสนามฟุตบอล ซึ่งฟุตบอลไทยเองก็เหมือนจะเจอปัญหานี้ มองเรื่องนี้อย่างไรบ้าง
จริงๆ ต้องบอกแบบนี้ครับ ผมว่าบรรยากาศในการดูการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์หรือช่องทางไหนก็ตาม กับบรรยากาศการดูฟุตบอลในสนามนี่มันคนละเรื่องกันเลยนะ มันไม่สามารถเทียบกันได้เลย ถ้าใครเคยได้อยู่ในสนามจะรู้ว่าถ้าคุณมีโอกาสไปดูที่สนามได้จะสนุกกว่าเยอะ บรรยากาศของการลุ้น เหตุการณ์สดๆ ในสนาม การเฮกันลั่นๆ ความกดดันที่หันหน้าไปทางไหนทุกคนก็เครียดไปหมดเลย แล้วก็มีวินาทีหนึ่งที่จู่ๆ ก็ทำประตูได้ ทุกคนได้ปลดปล่อยความดีใจออกมาแบบนี้ บรรยากาศแบบนี้หาที่ไหนก็ไม่ได้
ดังนั้น ถามผม ผมมองกลับกันนะ ยิ่งการถ่ายทอดสดได้รับความนิยมมากขึ้น ยิ่งจะเป็นผลดีที่ทำให้คนอยากกลับเข้าไปดูในสนามมากขึ้น ซึ่งก็คงมีบางส่วนที่คิดว่าถ้าการถ่ายทอดสดดีดูอยู่บ้านก็ได้ แต่อนาคตสิ่งที่เราคาดหวังคือการส่งเสริมให้ครอบครัวในท้องถิ่นต่างๆ ในจังหวัดต่างๆ ที่มีทีมฟุตบอล คุณพ่อจูงลูกหรือพาภรรยาไปเชียร์กัน เพราะมันเป็นความภาคภูมิใจของแต่ละจังหวัด เราไปเชียร์เพื่อศักดิ์ศรีของแต่ละจังหวัด ผมว่าวัฒนธรรมแบบนี้จะขยายตัวขึ้น สร้างให้เป็นฐานที่แข็งแรงมากขึ้นในอนาคต
ตรงนี้ทำให้นึกถึงเรื่องปรากฏการณ์ของฟุตบอลไทยน่าสนใจ เมื่อฟุตบอลไทยถ่ายทอดสดทางฟรีทีวี และช่องทางของสโมสรซึ่งมีผู้ชมจำนวนมาก มองปรากฏการณ์ตรงนี้อย่างไรบ้าง
ต้องบอกว่ามันทำให้เรามั่นใจว่าเราตัดสินใจถูกนะ เพราะการที่มีคนดูทางฟรีทีวีมากขึ้น แปลว่ามีคนสนใจฟุตบอลไทย เรียกง่ายๆ ว่าถ้าฤดูกาลนี้เราเห็นตัวเลขเรตติ้งตัวเลขแย่เลย ไม่มีคนดูเลย แบบนี้ผมอาจต้องกลับมาคิดว่าเราตัดสินใจผิดอะไรบางอย่างหรือเปล่า แต่ด้วยปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ยอดคนดูในแต่ละคู่รวมกันสูงสุด 4.2 ล้านคนในฟรีทีวี เพราะฉะนั้นเองผมก็เชื่อว่า นี่ขนาดสัปดาห์แรกที่ต้องบอกว่าคนยังไม่รู้ว่ามีการถ่ายทอดสดช่องทางไหนบ้าง ต้องค่อยๆ มาติดตามกัน
เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างดี ถ้าเราโปรโมตเข้าไปเยอะๆ ทำให้ความนิยมมากขึ้น ทิศทางตัวเลขก็จะดีขึ้น แล้วหลังจากนั้นมันจะเหมือนเครื่องจักร มันหมุนด้วยตัวของเขาเอง คนดูก็ดู คนถ่ายทอดก็ถ่ายทอด เล่าอย่างสนุกสนาน คนดูเพิ่มขึ้น ความนิยมเพิ่มขึ้น สปอนเซอร์ผู้สนับสนุนก็จะเข้ามา มันจะเป็นวงจรที่ช่วยสนับสนุนฟุตบอลไทยไปคู่กัน
แล้วเรื่องที่บอกว่า “ฟุตบอลไทยคือของทุกคน” มีความหมายอย่างไร
การที่เราจะสร้างความนิยมให้กับฟุตบอลไทยได้ สิ่งที่ผมมองเห็นคือการที่จะแบ่งปันให้ทุกคนๆ ได้ไปแชร์เรื่องราว ไปเล่าเรื่องราวให้กลุ่มผู้ติดตามของคุณได้รับรู้ มีข่าวสารตลอดเวลา เพื่อทำให้เขาสนใจ และเพื่อทุกๆ Matchweek เขาจะได้กลับมาดูการถ่ายทอดสด เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่เราปล่อยออกไปสุดท้ายมันก็จะวิ่งกลับคืนมาที่เราเอง ว่าคนอยากดูแมตช์ถ่ายทอดสด
อย่างผมติดตามฟุตบอลต่างประเทศ ทุกครั้งที่จบแมตช์เขาจะมีเรื่องเล่า เขาจะประมวลผลว่าแมตช์นี้ควรจะเล่าเรื่องอะไร แล้วก็จะมีเรื่องเดียวกันถูกถ่ายทอดไปกับอินฟลูเอนเซอร์, คอมเมนเตเตอร์ ซึ่งจะมีกลุ่มคนที่ชอบฟัง ชอบศึกษา แชร์เรื่องราวกัน เล่าไปอย่างนี้อีก 2-3 วันก็จะครบอาทิตย์ แล้วกลับมาดูแมตช์ต่อไป
นี่คือสิ่งที่เรามองเห็น คือการช่วยกัน ผมยินดีที่จะแบ่งปันบางส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาพไฮไลต์ ภาพนิ่ง หรือแม้กระทั่งสถิติต่างๆ ที่เรารวบรวมมา และคิดว่าเป็นสถิติที่น่าสนใจ แบ่งปันให้ทุกคนคิดวิเคราะห์กันต่อ เล่ากันต่อ ไปทำคอนเทนต์ที่ตัวเองถนัดแล้วช่วยกันเล่า ช่วยกันสร้างความนิยม เดี๋ยวความนิยมพวกนี้ก็จะกลับมาที่การถ่ายทอดสดการแข่งขัน มันก็จะหมุนกันไปอย่างอัตโนมัติ
ความจริงไม่ใช่ผมคิดได้คนแรก เราเห็นต่างประเทศเขาทำมาแล้ว และเขาก็ทำสำเร็จ พวกเราเองก็เป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ทำให้ฟุตบอลต่างประเทศมีความนิยม เพราะถ้าไม่มีใครเล่าเลยมันจะเงียบๆ ดูกันเป็นกลุ่มๆ ดูเป็นกลุ่มเฉพาะ ไม่กว้างมากนัก วันนี้เราอยากจะทำให้ฟุตบอลไทยเข้าถึงทุกคนมากขึ้น
สมมติผมเป็นนักศึกษา ผมอยากทำคอนเทนต์ฟุตบอลไทยได้ไหม
เอาไว้ถึงเวลาแล้วคุณมาลงทะเบียนกับเรา เสร็จแล้วเราจะเปิดให้คุณเข้ามาในโฟลเดอร์กลาง ที่ไม่ว่าคุณเห็นอะไรในโฟลเดอร์นี้ ไม่ว่าจะเป็นภาพ ข้อมูล ไฮไลต์ อะไรที่เราพอจะให้ได้คุณก็สามารถหยิบไปใช้ได้เลยง่ายๆ แบบนี้เลย ขอแค่ให้เรารู้ว่าคุณเป็นพันธมิตรกับเรา คุณหยิบไปใช้ได้เลย
เท่ากับสิ่งที่ Zense หลงเหลืออยู่คือการถ่ายทอดสด?
แน่นอนครับ เราลงทุนลิขสิทธิ์เพราะเรามั่นใจว่าคนจะกลับมาดูการถ่ายทอดสดกับเรา เรามั่นใจว่าการถ่ายทอดสดของเราจะมีรายละเอียดต่างๆ ที่ทำให้คนดูฟุตบอลสนุกขึ้น มันไม่เหมือนฟุตบอลสมัยก่อน คือตอนผมดูเด็กๆ ไม่มีอย่างอื่นเลยนอกจากการลุ้นทุกวินาทีในสนาม แต่ไม่รู้อะไรอย่างอื่นเลย ไม่รู้ว่าคนนี้ได้บอลบ่อย แต่เขาจ่ายบอลสำเร็จกี่ครั้ง จ่ายพลาดกี่ครั้ง คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ เขาวิ่งอยู่ตรงไหนบ้าง เขาสร้างโอกาสในการทำประตูได้บ้างไหม เขายิงไปกี่ครั้งแล้ว เข้ากรอบกี่ครั้ง ออกนอกกรอบกี่ครั้ง ฟุตบอลสมัยใหม่จะเป็นแบบนี้
มันไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับวงการฟุตบอลในระดับโลก แต่มันเป็นเรื่องใหม่สำหรับวงการฟุตบอลไทย และเราอยากจะเติมสิ่งเหล่านี้เข้ามา สิ่งเหล่านี้ผมคิดว่าทาง Zense เข้ามาเติมเต็มได้ และเราไม่ได้ทำคนเดียว เรามีพาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์ มีพาร์ตเนอร์ที่ให้ข้อมูลสถิติกับเราได้
พูดถึงพาร์ตเนอร์อย่าง Eleven Sports สักหน่อย เขาจะช่วยอะไรได้บ้าง
ต้องบอกว่าเวลาเราเลือกทำธุรกิจอะไรก็ตาม เราจะเลือกทำงานกับพาร์ตเนอร์ที่มีประสบการณ์ อย่าง Eleven Sports เขามีประสบการณ์ในการทำ Live Streaming ในการทำ OTT เกี่ยวกับกีฬามาหลากหลายประเทศ และเขาก็มีแพลตฟอร์ม ล่าสุดเพิ่งเทกโอเวอร์ MyCujoo (บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับ Live Streaming ชื่อดัง) มาเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นต้องบอกว่าเขามีความเชี่ยวชาญ เราได้พูดคุยกับเขามาตั้งแต่ช่วงประมูล การที่มีเขามาช่วยในส่วนนี้น่าจะทำให้เกิดการแบ่งปันความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ทำให้คอนเทนต์นี้แข็งแรงยิ่งขึ้น เพราะการทำ OTT ตรงนี้เป็นประสบการณ์ใหม่ เราต้องทำให้คนดูได้รับประสบการณ์ที่ดี การที่เราได้พาร์ตเนอร์ที่เก่งแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เรามั่นใจในการที่จะทำธุรกิจนี้
Eleven Sports นี้เขาก็เห็นเหมือนกันว่า กีฬาเป็นเทรนด์ในอนาคต วันนี้ทุกคนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทุกคนดูกีฬา เชียร์กีฬากันมันมากขึ้น เทรนด์ของกีฬาน่าจะเป็นเทรนด์สำคัญในอีกหลายๆ ปีข้างหน้า นั่นเองเป็นสาเหตุที่ทำให้เขามั่นใจที่จะลงทุน เพราะก่อนหน้านี้เขาลงทุนในเอเชียมาพอสมควรแล้ว เช่น ไต้หวัน เมียนมา และแน่นอนว่าไทย เขามองว่าเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
การที่ Zense จับมือกับ Eleven Sports น่าจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้แพลตฟอร์มแข็งแรง และคอนเทนต์ก็แข็งแรงตามไปด้วย
เป้าหมายของ Zense กับฟุตบอลไทย หากถึงวันที่ครบ 8 ปีที่อยู่กับฟุตบอลไทยแล้ว วันนั้นฟุตบอลไทยจะมีหน้าตาอย่างไร
ผมมองว่าความนิยมของฟุตบอลไทยในช่วงที่ Zense เข้ามารับผิดชอบ มันจะค่อยๆ สร้าง สิ่งที่เราสร้างขึ้นมานั้นไม่มีอะไรที่จะสร้างได้ในเวลาอันรวดเร็ว ทุกอย่างต้องใช้เวลา หลายๆ รายการที่เราประสบความสำเร็จต้องใช้เวลา ดังนั้นในช่วงปีแรกเราคงหวังในการสร้างฐาน แต่เราสร้างในมุมมองของการที่เราวางโรดแมปให้ถูกต้อง ในการสร้างคอนเทนต์ต่างๆ รอบเกมฟุตบอล
ดังนั้นในช่วง 8 ปีข้างหน้า ความนิยมจะแข็งแรงมากขึ้น และมันจะยิ่งแข็งแรงมากขึ้นถ้าคนไทยเปิดใจดูฟุตบอลไทย เพราะสุดท้ายไม่ว่าวันใดที่ทีมชาติไทยลงสนาม เพื่อจะทำหน้าที่เป็นตัวแทนของคนไทยทุกคน ไปแข่งในรายการต่างๆ คนไทยก็พร้อมใจกันเชียร์
สุดท้ายวันหนึ่งผมเชื่อว่าในอีก 8 ปีข้างหน้าที่เราดูแล ผมอยากเห็นทีมชาติไทยประสบความสำเร็จถึงขั้นไปฟุตบอลโลก เพราะต้องบอกว่าฟุตบอลโลกในปี 2026 นั้น หนึ่ง ผมเชื่อว่าทีมชาติไทยจะเล่นได้ดีขึ้น และสอง จำนวนทีมจะเพิ่มขึ้น ปกติเรามีโอกาสลุ้น แต่จำนวนทีมที่จะได้ไปมันน้อยไปนิดหนึ่ง แต่ในปี 2026 มีโอกาสที่จะมีที่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นจะเป็นโอกาสสำหรับนักฟุตบอลไทยมากขึ้น
เมื่อเป้าหมายเราเป้าหมายเดียวกัน ช่วยกันดูฟุตบอลไทย ช่วยกันเชียร์ฟุตบอลไทย วันหนึ่งเราจะมีโอกาสได้ไปฟุตบอลโลกครับ
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
- วราวุธเป็นแฟนบอลทีมลิเวอร์พูลมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ จนปัจจุบันอายุ 44 ปี ดูมาตั้งแต่ยุคของ เคร็ก จอห์นสตัน, จอห์น บาร์นส์, เอียน รัช, เคนนี ดัลกลิช
- นักฟุตบอลในดวงใจ ตอนแรกๆ ชอบกองหน้า เลยชอบ รอนนี วีแลน, แจน โมลบี, จอห์น บาร์นส์, ปีเตอร์ เบียร์ดสลีย์