บนเวทีใหญ่ของ VCT Pacific Stage 2 ที่โตเกียว ทีม Talon Esports ต้องหยุดเส้นทางไว้เพียงรอบรองชนะเลิศ หลังพ่ายให้กับ RRQ 2-3 เกม ชวดทั้งการเข้าชิงและตั๋วไปชิงแชมป์โลก
แต่ท่ามกลางน้ำตาและความผิดหวัง มีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญกว่าผลลัพธ์บนสกอร์บอร์ด คือ บทเรียนและการเติบโต ของเหล่านักแข่งหนุ่มทั้ง 5 คน โดยเฉพาะกับนักแข่งผู้มีนามว่า Primmie
แมตช์กับ RRQ กลายเป็นหนึ่งในเกมที่เข้มข้นที่สุดของทัวร์นาเมนต์ เล่นกันยาวครบ 5 แผนที่ แม้ผลสุดท้ายจะไม่เป็นดั่งหวัง แต่ Primmie เลือกมองเข้าไปในมุมที่งดงามกว่า พร้อมให้สัมภาษณ์กับ THE STANDARD SPORT อย่างตรงไปตรงมาว่า
“ผมภูมิใจครับที่ได้เล่นครบ 5 เกม ทุกคนทำเต็มที่แล้ว ภูมิใจในเพื่อนร่วมทีมทุกคน”
จากการพ่ายแพ้ครั้งนี้ Primmie พบสิ่งที่ควรนำกลับไปพัฒนาอยู่ 2 อย่าง นั่นคือ การควบคุมอารมณ์และความใจเย็น
“บางจังหวะเราใจร้อนไปหน่อย ต้องเรียนรู้ที่จะรอ และเล่นให้เป็นจังหวะเดียวกันมากขึ้น” นั่นคือบทสรุปที่เขาเก็บไว้ เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงพาตัวเองและทีมก้าวไปข้างหน้า
อีกหนึ่งสิ่งที่ Primmie เชื่อเสมอมา และสำคัญต่อการเก็บไว้เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นนักแข่งคือ “ห้ามยอมแพ้” ไม่ว่าจะสถานการณ์เลวร้ายแค่ไหน
“ต่อให้โดนนำ 0-2 ก็ยังกลับมาได้ เหมือนที่ RRQ ทำให้เห็น”
สำหรับเขา mentality คือหัวใจสำคัญ นักกีฬาที่จะอยู่รอดบนเวทีใหญ่ ต้องแข็งแกร่งทั้งฝีมือและจิตใจ
ในปี 2025 คือปีแรกที่ Talon รวมทีม (ชุดปัจจุบัน) แต่สามารถมาถึงอันดับ 3 ของสเตจสุดท้ายของแปซิฟิก “มันเกินคาดครับ เราซ้อมด้วยกันไม่ถึงปีแต่ทุกคนสู้จนถึงรอบไฟนอล ก็สุดยอดมากแล้วสำหรับโซนที่แข่งกันเข้นข้นแบบนี้” Primmie กล่าวด้วยความภูมิใจ
หนึ่งในช่วงเวลาที่ประทับใจที่สุดสำหรับ Primmie คือการได้เล่นท่ามกลางผู้ชมล้นสเตเดียมในญี่ปุ่น “ผมรู้สึกได้ถึงพลังจริงๆ เห็นป้ายเชียร์ เห็นแฟนๆ ตะโกนชื่อเรา มันทำให้มีไฟ อยากกลับมาเล่น BO5 อีกครั้ง”
ขณะเดียวกัน ในโลกออนไลน์พากันตั้งฉายาให้เขาเป็น “ท่าน Primmie” จากสไตล์การเล่นที่เฉียบคม สร้างความตื่นตาและใจได้เสมอ ซึ่งเจ้าตัวก็รับไว้ด้วยรอยยิ้มเขินๆ “ก็ขอบคุณทุกคนมากครับ หวังว่าจะเป็น ‘ท่าน’ ให้ทุกคนได้อีกหลายปี”
สิ่งที่เขาได้เรียนรู้จากเส้นทางหนึ่งปีเต็มในฐานะนักกีฬาอีสปอร์ตคือ การเติบโต ทั้งในเกมและนอกเกม “ผมต้องใจเย็นกับหลายอย่าง เพราะบางทีมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด เราก็ต้องเรียนรู้และก้าวต่อไป”
สำหรับ Primmie ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่เขาคนเดียว แต่คือทีม “ตอนนี้พวกเราเหมือนครอบครัว คุยเล่น คุยงาน ไปด้วยกันหมด ผมมั่นใจว่าทีมนี้ไปได้ไกลแน่นอน”
เรื่องราวของ Primmie และทีม Talon อาจปิดฉากที่ความพ่ายแพ้ในโตเกียว แต่สิ่งที่สะท้อนออกมาชัดเจนยิ่งกว่าคือ ใจนักสู้ของเด็กหนุ่มวัย 20 ปี ที่เลือกเก็บทุกความผิดหวังเป็นบทเรียน ทุกประสบการณ์เป็นเชื้อไฟ เพื่อพาตัวเองและทีมก้าวไปข้างหน้า
และสำหรับแฟนเกม Valorant โดยเฉพาะชาวไทย เชื่อว่า คงมองเห็นตรงกันว่า ความพ่ายแพ้ครั้งนี้…ไม่ใช่จุดจบ
หากแต่เป็นเพียง อีกหนึ่งจุดเริ่มต้น บนเส้นทางที่ยังอีกยาวไกลของ ‘ท่าน Primmie’ และผองเพื่อน ที่เชื่อมั่นว่าจะไปได้ไกลกว่านี้ ตราบใดที่ยังยึดมั่นในหัวใจที่ไม่เคยย่อท้อ ✌️