วันนี้ (26 มกราคม) อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส. ราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า พรรครวมไทยสร้างชาติขอขอบคุณประชาชนทุกท่านที่ร่วมสนับสนุนพรรค ส่งผลให้ได้รับการจัดสรรเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง ประจำปี 2568 โดยพรรครวมไทยสร้างชาติได้รับเงินอุดหนุนมาเป็นอันดับ 1 ด้วยจำนวนเงิน 17,934,107.84 บาท
พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย สส. และสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติทุกคน ขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ร่วมอุดหนุนภาษีให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งแสดงถึงความไว้วางใจ ความเชื่อมั่น และความศรัทธาที่มีต่อพรรค
ทั้งนี้ พรรคจะมุ่งมั่นทำหน้าที่ทั้งในส่วนของ สส. ในฐานะฝ่ายนิติบัญญัติในสภาผู้แทนราษฎร และในส่วนของรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายบริหาร อย่างสุดกำลังความสามารถ รวมทั้งจะพัฒนาพรรครวมไทยสร้างชาติให้เติบโตเข้มแข็ง เป็นที่มุ่งหวังพึ่งพาของพ่อแม่พี่น้องประชาชนต่อไป ที่สำคัญพรรคจะขอยืนหยัดรักษาผลประโยชน์ให้กับประเทศชาติและพ่อแม่พี่น้องคนไทยทุกคน โดยเฉพาะในส่วนของพลังงานและอุตสาหกรรมไทยที่พรรคมีหน้าที่รับผิดชอบดูแลหลักในรัฐบาล
อัครเดชกล่าวย้ำว่า จากสิ่งต่างๆ ในปัจจุบันเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า พี่น้องประชาชนให้ความเชื่อมั่นและเชื่อใจพรรครวมไทยสร้างชาติ ทั้งในส่วนของการทำงานในด้านพลังงานและอุตสาหกรรม รวมถึงบทบาทของ สส. ในสภา ที่แสดงจุดยืนชัดเจนในการทำงานผ่านร่างกฎหมายต่างๆ เช่น ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต หรือ พ.ร.บ.สุรารวมไทย ที่ช่วยทลายทุนผูกขาด, ร่าง พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า ที่มุ่งปกป้องผู้บริโภคและผู้ประกอบการชาวไทย พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ ที่จะสร้างการศึกษาที่ตอบโจทย์พื้นที่ ผู้ประกอบการ และผู้เรียน และร่างกฎหมายอื่นๆ ที่กำลังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่เอกนัฏกล่าวขอบคุณประชาชนและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติทุกคนที่ร่วมสนับสนุน ร่วมให้กำลังใจ และร่วมยืนหยัดเคียงข้างกับพรรครวมไทยสร้างชาติ จนทำให้พรรครวมไทยสร้างชาติได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองมาเป็นอันดับ 1 แสดงให้เห็นว่าพรรคยังมีคะแนนนิยมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องอย่างเห็นได้ชัด
เอกนัฏกล่าวต่อว่า ตนขอขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งมาให้ในทุกช่องทาง ซึ่งตนได้อ่านทุกข้อความ และขอยืนยันว่าจะมุ่งมั่นเดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาประเทศชาติและเพื่อประโยชน์ของพ่อแม่พี่น้องคนไทยทุกคน โดยในกระทรวงอุตสาหกรรม ตนมีทีมการเมืองที่หนักแน่นเข้มแข็ง และมีข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรมที่ต้องขอขอบคุณข้าราชการทุกคนที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานตามนโยบาย ‘รื้อ ลด ปลด สร้าง’ อย่างมุ่งมั่น
ทั้งการรื้ออุตสาหกรรมเถื่อนที่ทำผิดกฎหมาย ลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม ผลิตของด้อยคุณภาพ ทำธุรกิจอย่างไร้ความรับผิดชอบ และทำร้ายชีวิตคนไทยและเศรษฐกิจประเทศไทย
ลดมลภาวะผ่านการออกมาตรการลดการเผาอ้อย, การติดตั้งอุปกรณ์ CEMs เพื่อมอนิเตอร์และลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ
ปลดล็อกข้อจำกัดทางกฎหมาย ขั้นตอนที่เป็นภาระกับผู้ประกอบการ เริ่มต้นด้วยการยกเลิกการขออนุญาตโรงงาน (รง.4) สำหรับการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ตามด้วยการออกร่าง พ.ร.บ.โซลาร์ และร่าง พ.ร.บ.โรงงาน
และสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ เพิ่มมูลค่า จัดระบบให้สะดวก สะอาด โปร่งใส ด้วยกติกาที่มีมาตรฐาน และการร่าง พ.ร.บ.จัดการกากอุตสาหกรรมใหม่ ตั้งกองทุนอุตสาหกรรมยั่งยืน ช่วยธุรกิจโดยเฉพาะ SMEs ไทยให้ปรับตัวสู่ความยั่งยืนได้
“ผมต้องขอขอบคุณพ่อแม่พี่น้องและสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติทุกคนที่ช่วยกันขับเคลื่อนงานการเมืองอย่างสร้างสรรค์ จนทำให้คะแนนนิยมพรรคเพิ่มขึ้น และล่าสุดได้เป็นพรรคที่ได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองมากที่สุดเป็นอันดับ 1” เอกนัฏกล่าว