วันนี้ (27 พฤษภาคม) อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลุกขึ้นชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยย้ำว่า กำลังกู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ไม่ใช่ 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) อีก 2 ฉบับ เป็นสภาพคล่องที่มีอยู่ในระบบนำมาแก้ปัญหาให้ประชาชน และประเทศที่กำลังเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นวิกฤตทางสาธารณสุข ส่งผลถึงเศรษฐกิจที่พบเจอกันทั่วโลก และกระทบเป็นวงกว้าง
อุตตม ชี้แจงด้วยว่า รัฐบาลไม่ต้องการให้ไปสู่วิกฤตที่ลึก แก้ไขยาก จึงต้องใช้งบประมาณมาดูแล คือ พ.ร.ก. กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท รัฐบาลใช้แนวทางเดียวกันกับทั่วโลก ที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางก่อน ใช้งบประมาณในวงกว้างและกระตุ้นการฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อดูแลผลกระทบในครั้งนี้ การกู้เงินนี้เป็นแนวทางสุดท้ายของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหา และมีกรอบการดำเนินงานที่รัดกุม
“สถานการณ์ตอนนี้ไม่เหมือนกับสถานการณ์เมื่อปี 2540 ที่เป็นวิกฤตระดับภูมิภาค และไม่มีเรื่องความเป็นความตายของประชาชนเข้ามาเกี่ยวข้อง จากเป้าหมายที่มี รัฐบาลได้กำหนดแนวทางที่ใช้กันทั่วโลก โดยองค์กรระหว่างประเทศ เช่น IMF ธนาคารโลก ได้เสนอแนวทางเชิงนโยบายให้ประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศเศรษฐกิจใหม่ที่ให้มุ่งเน้นช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางก่อน และใช้มาตรการทางการคลังในวงกว้างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งเป็นแนวทางสากลที่ช่วยเหลือประชาชน การกู้เงินเรามีกรอบที่รัดกุมไม่ได้แตกต่างจากอดีต และการประเมินผลงานก็ใช้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะและสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเข้ามาดำเนินการ อย่างโครงการไทยเข้มแข็ง และ พ.ร.ก. บริหารจัดการน้ำ และกรณีเราไม่ทิ้งกัน ก็มีวัตถุประสงค์ของการตราพระราชกำหนดไม่แตกต่างกัน ถามว่าการกู้เงินครั้งนี้สมเหตุสมผลหรือไม่นั้น รัฐบาลได้พิจารณาด้วยความรอบคอบ การเยียวยาและการเพิ่มสภาพคล่องเข้าไปในระบบ การกู้เงินครั้งนี้คิดเป็นร้อยละ 6 ต่อ GDP หรือร้อยละ 31ของงบประมาณประเทศ เรามีสัดส่วนการกู้เงินครั้งนี้ไม่ได้กระโดดจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้น เพราะเป็นการกู้เงินในภาวะวิกฤต” อุตตมกล่าว
อย่างไรก็ตาม อุตตมยอมรับว่า การเยียวยามีความล่าช้า เพราะต้องใช้เวลาเพื่อความรัดกุม และข้อมูลของไทยไม่มีความพร้อมที่จะดำเนินมาตรการได้รวดเร็วอย่างที่อยากให้เป็น เพราะอาชีพอิสระ ไม่มีถังข้อมูลชี้ชัดว่าอยู่ที่ไหน เป็นใครบ้าง จึงเป็นเหตุผลที่ต้องมีการเปิดลงทะเบียน และเหตุการณ์นี้เป็นครั้งแรกที่ไทยดำเนินการในเรื่องนี้ แต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำงานหนักจริงๆ สิ่งที่ผิดพลาดก็นำมาปรับปรุง ปรับเปลี่ยนวิธีให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชน โดยการเยียวยาไม่ใช่ครั้งเดียวจบ มีต่อเนื่องไปถึงการฟื้นฟู อีกทั้งข้อมูลที่ได้มาเกี่ยวกับอาชีพอิสระ เป็นโอกาสที่จะนำไปใช้ในอนาคต เพื่อรัฐบาลต่อๆ ไป สามารถใช้ข้อมูลในส่วนนี้ไปเยียวยาหากเกิดวิกฤตขึ้นอีก
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
ห้ามพลาด! ฟอรัมที่เจาะลึก New Normal ที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย จากวิทยากรระดับประเทศ 40 คน ซื้อบัตรงาน THE STANDARD ECONOMIC FORUM ที่ https://www.eventpop.me/e/8705-economic-forum
