เหล่าแฟนบอลชาว LGBTQ ทั่วโลกที่ต้องการเดินทางไปเชียร์ทีมชาติและทีมที่ตนชื่นชอบถึงขอบสนามในช่วงฟุตบอลโลกหลายต่อหลายคนต้องพับแผนทิ้งกลางคัน ไม่กล้าเดินทางไปรัสเซีย หลังกระแสเกลียดกลัวกลุ่มรักเพศเดียวกัน (Homophobia) เพิ่มสูงขึ้นในช่วงระยะเวลานี้ แฟนบอลจำนวนมากได้รับคำขู่หากยังเลือกที่จะตัดสินใจเดินทางไปรัสเซีย
ในรัสเซีย ‘การรักเพศเดียวกัน’ เคยถูกพิจารณาว่าเป็นอาการป่วยทางจิต จนกระทั่งถึงปี 1999 ที่ประเด็นนี้กลายเป็นที่ถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์กันในระดับประเทศ แต่ในปัจจุบันการสมรสของเพศเดียวกันก็ยังไม่เป็นที่ยอมรับในประเทศแห่งนี้ อัตราการทำร้ายร่างกายหรือก่อเหตุอาชญากรรมต่อกลุ่ม LGBTQ ยังคงมีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการจัดอันดับประเทศในยุโรปที่ให้สิทธิและเสรีภาพต่อกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ โดย ILGA-Europe พบว่า มอลตา เป็นประเทศที่มีการออกกฎหมายและให้สิทธิเสรีภาพต่อกลุ่ม LGBTQ มากที่สุดในยุโรป ตามมาด้วยเบลเยียมและนอร์เวย์ ในขณะที่รัสเซียอยู่อันดับที่ 45 จากทั้งหมด 49 ประเทศ
ดี คันนิงแฮม ผู้จัดงาน Three Lions Pride และแฟนบอลทีมชาติอังกฤษ หนึ่งในชาว LGBTQ ที่ได้รับอีเมลเตือนเผยว่า “พวกเราได้รับคำเตือนต่างๆ มากมายว่าชาว LGBTQ ทุกคนจะไม่ได้รับการต้อนรับที่รัสเซีย และจะมีบางสิ่งบางอย่างที่รุนแรงมากๆ เกิดขึ้น หากยังดื้อดึงเดินทางไปที่นั่น
“โชคไม่ดีที่ฟีฟ่ากำลังจัดมหกรรมการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าในประเทศที่แฟนบอลหรือผู้คนบางกลุ่มไม่ถูกต้อนรับ มีแฟนบอล LGBTQ จำนวนมากที่ไม่ได้เดินทางไปรัสเซีย เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย”
รัฐบาลอังกฤษคาดว่าจะมีแฟนบอลเดินทางไปรัสเซียมากกว่า 10,000 คน โดยทางการประกาศเตือนให้ชาวอังกฤษระมัดระวังตัวขณะพำนักอยู่ในรัสเซีย เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษและรัสเซียค่อนข้างตึงเครียดนับตั้งแต่มีการกล่าวหาว่ารัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการวางยาสายลับสองหน้า ซึ่งอาจทำให้แฟนบอลอังกฤษ เผชิญหน้ากับการเหยียด การเลือกปฏิบัติ กระแสเกลียดกลัวกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน รวมถึงกระแสต่อต้านความเป็นอังกฤษ
แม้ทางฟีฟ่าระบุว่ามีการสอดส่องพฤติกรรมของบรรดาแฟนบอลภายในสนามตลอดทั้งเกมการแข่งขัน แต่แฟนบอลชาว LGBTQ ต่างแสดงความกังวลถึงความปลอดภัยหลังเดินออกจากสนามแล้ว เตือนสมาชิกกลุ่มอย่าแสดงออกถึงรสนิยมทางเพศอย่างโจ่งแจ้งในประเทศแห่งนี้
อ้างอิง: