ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดตลาดเมื่อวานนี้ (19 กรกฎาคม) ปรับตัวขยับขึ้นในแดนบวก โดยได้อานิสงส์จากรายงานผลประกอบการของหลายบริษัทที่ดีเกินคาด บวกกับแรงซื้อจากนักลงทุนที่เริ่มกลับเข้ามาตลาด เนื่องจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีแนวโน้มที่ใกล้จะยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
ทั้งนี้ ดัชนี Dow Jones Industrial Average ปิดที่ 35,061.21 จุด เพิ่มขึ้น 109.28 จุด หรือ 0.31%, ขณะที่ ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 4,565.72 จุด เพิ่มขึ้น 10.74 จุด หรือ 0.24% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 14,358.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.38 จุด หรือ 0.03%
Dow Jones Industrial Average ปิดตลาดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 8 ซึ่งเป็นสถิติที่ยาวนานที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2019
ด้านข้อมูลจาก FactSet ระบุว่า 78% ของบริษัทในดัชนี S&P 500 ที่ได้เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 แล้วนั้น มีกำไรสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีรายงานผลประกอบการที่ขาดทุนของบริษัทบางส่วน เช่น Goldman Sachs ที่พลาดรายได้ตามที่ตั้งไว้ แต่ก็เป็นไปตามคาดการณ์ของบริษัทที่เคยออกมาบอกนักลงทุนไว้ก่อนหน้า ว่าทาง Goldman อาจจะมีผลลัพธ์ไม่สดใสในช่วงไตรมาสล่าสุด เนื่องจากขาดทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และ GreenSky
ขณะที่นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งมองว่า หุ้นของเทคโนโลยีมีแนวโน้มเติบโตที่สดใส โดยส่วนหนึ่งคาดว่าหุ้นของ Apple จะขยับขึ้นแตะ 210 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากการคาดการณ์รายได้ในปี 2024 แม้ว่าในระยะสั้นจะเห็นทิศทางความเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยสู้ดีนักของ Apple ก็ตาม
Bank of America Securities ชี้ว่า แม้บริษัทจะมีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 2 แต่ความต้องการ iPhone ในตลาดที่ปรับตัวลดลง บวกกับความล่าช้าที่อาจเกิดขึ้นในการเปิดตัว iPhone 15A อาจส่งผลให้ยอดขาย iPhone ลดลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ในระยะยาวนักวิเคราะห์มองว่า รายได้ในระยะยาวของ Apple จะฟื้นขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากความต้องการ iPhone ที่ลดลงจะถูกชดเชยด้วยความยืดหยุ่นในบริการ เช่น การเติบโตของ App Store ที่ดีขึ้น การสมัครสมาชิกที่แข็งแกร่ง ซึ่งจะช่วยให้ Apple มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ตลาดโดยรวมของ Apple รวมถึงบริษัทอื่นๆ ในตลาดยังคงต้องเผชิญกับสารพัดความท้าทาย ซึ่ง Apple ชี้ว่า ปีนี้บริษัทมองเห็นอุปสรรคทั้งจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ลดลงและการใช้จ่ายขององค์กรที่ชะลอตัว รวมถึงปัญหาสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ อัตราแลกเปลี่ยน และการใช้จ่ายด้านโฆษณาและเกมดิจิทัลที่อ่อนแอลง
เมื่อวันพุธ (19 กรกฎาคม) หุ้น Apple ปิดตลาดปรับตัวลดลง 0.36% มาอยู่ที่ 193.03 ดอลลาร์ต่อหุ้น
อ้างอิง: