วันนี้ (22 พฤศจิกายน) ไมเคิล ฮีธ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย, วิชชุ เวชชาชีวะ อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ และ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมพิธีรับวัคซีน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยการส่งมอบวัคซีน Moderna ครั้งนี้ เกิดขึ้นภายหลังจากที่สหรัฐฯ ได้มอบวัคซีนป้องกันโควิดชนิด mRNA ของ Pfizer จำนวน 1.5 ล้านโดสให้แก่ไทยเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการสนับสนุนให้ประเทศไทยต่อสู้วิกฤตโควิดในประเทศ
“การจัดส่งครั้งใหม่นี้เน้นย้ำถึงการสนับสนุนที่สหรัฐฯ มีให้แก่ไทยขณะที่เราทั้งสองชาติยืนเคียงบ่าเคียงไหล่เพื่อเอาชนะการระบาดใหญ่ทั่วโลกนี้ วัคซีนล็อตแรกของเราได้ช่วยไทยควบคุมการระบาดของโรคโควิด และล็อตที่ 2 นี้จะช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีนประชากรให้ได้ร้อยละ 70 ภายในเดือนมกราคม อันเป็นการปูทางสู่การฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ” ฮีธกล่าว
ฮีธกล่าวต่อไปว่า วัคซีน Moderna ที่สหรัฐฯ มอบให้จะช่วยสนับสนุนการฉีดวัคซีนของไทยในขณะนี้ และเพิ่มความเชื่อมั่นของประชาชนระหว่างที่ไทยดำเนินการตามแผนการเปิดประเทศและฟื้นฟูเศรษฐกิจ สหรัฐฯ และไทย มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่พิเศษมาตั้งแต่การลงนามในสนธิสัญญาไมตรีและพาณิชย์เมื่อเกือบ 200 ปีที่แล้ว ในปัจจุบันความร่วมมือด้านเศรษฐกิจของเรายิ่งเข้มแข็งขึ้น และสหรัฐฯ กลายเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของไทย เราภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของราชอาณาจักรไทยผ่านการมอบวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
การส่งมอบวัคซีนครั้งล่าสุดนี้ต่อยอดจากการลงทุนในไทยของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าความช่วยเหลือรวมกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้เป็นทุนสนับสนุนด้านสุขภาพเกือบ 214 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากวัคซีนป้องกันโควิดจำนวน 2.5 ล้านโดสแล้ว สหรัฐฯ ได้ให้ความช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องแก่ไทยเป็นมูลค่ารวมหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ที่โรคโควิดเริ่มระบาด
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ทำงานร่วมกับภาคีทั่วโลกเพื่อหยุดยั้งผลกระทบที่รุนแรงในด้านสาธารณสุขและเศรษฐกิจ โดยได้ส่งมอบวัคซีนป้องกันโควิดมากกว่า 250 ล้านโดสไปยังกว่า 100 ประเทศ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน มุ่งมั่นในการกระจายวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพไปถึงมือผู้คนทั้งหลายบนโลกใบนี้
“การมอบวัคซีน mRNA รวม 2.5 ล้านโดสให้แก่ไทย และอีกหลายล้านโดสแก่ประเทศเพื่อนบ้านของไทย จะช่วยให้ไทยและประเทศอื่นในภูมิภาคเร่งฉีดวัคซีน ทำให้ผู้คนปลอดภัย และผลักดันการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับโลก” ไมเคิล ฮีธ กล่าวทิ้งท้าย