×

ก.ล.ต. สหรัฐฯ เตือนว่าการอัปเกรด The Merge อาจทำให้เหรียญ ETH เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์

18.09.2022
  • LOADING...
The Merge

เครือข่าย Ethereum สามารถอัปเกรด The Merge ได้อย่างเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 15 กันยายน ทำให้เครือข่ายเปลี่ยนจากกลไก Proof-of-Work (PoW) ไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ขณะนี้สำนักงาน ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ กำลังจับตามองว่าเหรียญ Ether จะเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์หรือไม่ หลังจากที่เมื่อหลายปีก่อน ก.ล.ต. มองว่าโทเคน Ether เป็นสินค้าโภคภัณฑ์ไม่ใช่หลักทรัพย์ แต่สิ่งนี้ได้เปลี่ยนแปลงไปหลังจากการอัปเกรดที่ผ่านมา

 

ประธาน ก.ล.ต. กำลังจับตามอง Ethereum

การเปลี่ยนไปใช้ Proof-of-Stake ของ Ethereum ทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพ่งเล็งไปที่โทเคนดั้งเดิมของเครือข่ายว่าจะเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์หรือไม่

 

เครือข่าย Ethereum สามารถอัปเกรด The Merge ได้อย่างเสร็จสมบูรณ์เมื่อวันที่ 15 กันยายน ทำให้เครือข่ายเปลี่ยนจากกลไก Proof-of-Work (PoW) ไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ซึ่งเหล่านักขุดจะไม่สามารถขุดเหรียญ ETH ได้อีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ Gary Gensler ประธาน ก.ล.ต. กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (15 กันยายน) ที่ผ่านมาว่า สำนักงาน ก.ล.ต. อาจตรวจสอบ Ethereum ให้ละเอียดยิ่งขึ้น และกำกับว่าโทเคน Ether เข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์หรือไม่

 

อย่างไรก็ตาม Gensler กล่าวว่า เขาไม่ได้หมายถึงคริปโตเคอร์เรนซีเหรียญใดเหรียญหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เขายืนยันว่าบล็อกเชน Proof-of-Stake ที่สร้างเหรียญใหม่นั้นใช้คุณลักษณะเหมือนสัญญาการลงทุน ซึ่งสามารถดำเนินการได้หากอยู่ภายใต้ขอบเขตของสำนักงาน ก.ล.ต.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


กฎระเบียบที่เข้มงวดของสหรัฐฯ เกี่ยวกับหลักทรัพย์

โดยปกติแล้วผู้ออกหลักทรัพย์ในสหรัฐฯ จะต้องมีการเปิดเผยข้อมูลอย่างละเอียดต่อ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นกฎระเบียบที่มีมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1930

 

นายหน้าและแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนที่อำนวยความสะดวกในการซื้อขายหลักทรัพย์ยังต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด เพื่อปกป้องนักลงทุนจากความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ผู้ออกสกุลเงินดิจิทัลจะต้องเผชิญกับบทลงโทษที่เข้มงวด หากพวกเขาขายสินทรัพย์ที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ถือว่าเป็นหลักทรัพย์อีกด้วย

 

ประธาน ก.ล.ต. เปิดเผยว่า การเสนอบริการ Staking ให้กับผู้ใช้บริการค่อนข้างคล้ายกับการให้กู้ยืม โดยการ Staking ในคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นวิธีที่นักลงทุนสามารถล็อกสินทรัพย์ของพวกเขาในช่วงเวลาที่กำหนดและรับผลตอบแทนเมื่อเวลาผ่านไป

 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้จับตามองไปที่บริษัทที่เสนอผลิตภัณฑ์ให้กู้ยืมเงินคริปโตจะต้องลงทะเบียนกับหน่วยงานกำกับดูแล ย้อนกลับไปในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักงาน ก.ล.ต. บังคับให้ BlockFi จ่ายค่าปรับ 100 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากไม่ได้มีการจดทะเบียนกับหน่วยงาน

 

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X