วันนี้ (7 กรกฎาคม) เจ้าหน้าที่ตำรวจไฮแลนด์พาร์ก รัฐอิลลินอย สหรัฐอเมริกา เผยว่า โรเบิร์ต คริโม วัย 21 ปี ผู้ต้องสงสัยลงมือก่อเหตุกราดยิงฝูงชนในขบวนพาเหรดฉลองวันชาติสหรัฐฯ จากบนดาดฟ้าอาคารแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองชิคาโก เตรียมลงมือกราดยิงครั้งที่ 2 หลังจากนั้น
โดยระหว่างขึ้นรับฟังการไต่สวนของศาล อัยการเผยว่า คริโมสารภาพถึงเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้น ภายหลังที่เขาถูกจับกุมตัวได้ หลังพยายามขับรถหนีไปยังรัฐวิสคอนซิน โดยมีเหยื่อผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตอย่างน้อย 7 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งหากกระบวนการพิจารณาคดีแล้วเสร็จ คริโมอาจต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตโดยปราศจากการทำทัณฑ์บน
คริโมผ่านการตรวจประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ทางการสหรัฐฯ พยายามออกแบบมาเพื่อป้องกันมิให้ผู้ที่มีแนวโน้มจะก่ออาชญากรรมสามารถเข้าถึงการซื้อขายอาวุธปืนได้ นอกจากอาวุธปืนและกระสุนปืนที่พบในที่เกิดเหตุ คริโมยังมีอาวุธปืนอีก 3 กระบอกอยู่ที่บ้านของเขา แม้จะมีประวัติติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วอย่างน้อย 2 ครั้ง เมื่อเดือนเมษายน 2019 ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งว่าคริโมพยายามที่จะฆ่าตัวตาย และในเดือนกันยายน 2019 ที่สมาชิกในครอบครัวได้โทรแจ้งตำรวจ หลังจากที่เขาพูดว่าจะฆ่าทุกคนทิ้งให้หมด โดยทางการยังพบมีดสั้น มีดพก และมีดดาบ รวมแล้ว 16 เล่มที่บ้านของเขาอีกด้วย ทางการอิลลินอยระบุว่า พ่อของคริโมมีส่วนสนับสนุนลูกชายในการซื้ออาวุธปืนในช่วงที่เขามีอายุเพียง 19 ปี
โดยรัฐอิลลินอยเป็น 1 ใน 19 รัฐของสหรัฐฯ ที่พยายามจะออกมาตรการจำกัดการเข้าถึงอาวุธปืนสำหรับกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะก่อเหตุอาชญากรรมต่อตัวเองและผู้อื่น เหตุกราดยิงที่ขบวนพาเหรดวันชาติที่ไฮแลนด์พาร์กในครั้งนี้จึงเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ได้ว่ากระบวนการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับประเด็นนี้ยังมีช่องโหว่และไม่มีประสิทธิภาพ
ภาพ: Lake County Sheriff’s Office via Getty Images
อ้างอิง:
