ดูเหมือนว่าการที่ภาพยนตร์ Black Widow ที่แฟนมาเวลต่างรอคอย ได้รับการฉายผ่านโรงภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกา ก่อนวันที่ Disney+ จะได้ทำการสตรีมมิงรอบพรีเมียร์เพียงไม่กี่วัน จะส่งผลกระทบให้กับรายได้ของผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งล่าสุดเจ้าของโรงภาพยนตร์ในสหรัฐฯ ได้ออกมาต่อว่าแพลตฟอร์ม Disney+ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้จะอยู่ในช่วงของโรคระบาด แต่ Black Widow ก็ทำรายได้จากการขายตั๋วในโรงภาพยนตร์ได้ทั้งหมด 80 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 2.6 พันล้านบาท และทำรายได้จากการสตรีมมิงได้ทั้งหมด 60 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.9 ล้านบาทในสัปดาห์แรก และในสัปดาห์ถัดมา Black Widow ที่ฉายในโรงภาพยนตร์ก็ทำเงินได้เพียง 26 ล้านดอลลาร์ หรือราว 8 ร้อยล้านบาทเท่านั้น
สมาคมผู้ประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์นานาชาติ หรือ National Association of Theatre Owners (NATO) เผยว่าถ้าหาก Black Widow ออกฉายแต่เพียงในโรงภาพยนตร์ พวกเขาอาจทำรายได้ถึง 100 ล้านดอลลาร์ หรือราวๆ 3.2 พันล้านบาท พร้อมกับวิจารณ์แพลตฟอร์ม Disney+ ว่า
“แม้มันเป็นสิ่งที่ยืนยันได้แล้วว่ายุคแห่งโรคระบาดนี้คือแรงขับเคลื่อนที่ทำให้ Disney สร้างกลยุทธ์ใหม่ในการปล่อยภาพยนตร์ออกมาพร้อมกันสำเร็จลุล่วง แต่หากปล่อยภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ รายได้สำหรับพวกที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดสำหรับช่วงเวลาที่อยู่ในโรงก็จะมากขึ้น”
ภาพ: Marvel
อ้างอิง: