วันนี้ (11 พฤศจิกายน) แม้จะผ่านมาหลายวันแล้วนับจากที่ปิดคูหาเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 8 พฤศจิกายน ตามเวลาท้องถิ่น แต่การนับคะแนนเสียงเลือกตั้งก็ยังคงดำเนินไปในบางรัฐ การต่อสู้ชิงเก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ใกล้ได้ข้อสรุป หลังจากพรรครีพับลิกันคว้าเก้าอี้ ส.ส. แล้ว 211 ที่นั่ง และต้องการอีกเพียง 7 ที่นั่ง ก็จะครองเสียงข้างมากในสภาล่างสหรัฐฯ แทนพรรคเดโมแครตทันที ซึ่งขณะนี้มีอยู่ 197 ที่นั่ง (อัปเดตล่าสุด 11.00 น.)
ส่วนศึกชิงเก้าอี้สมาชิกวุฒิสภา หรือสภาสูงสหรัฐฯ ยังต้องรอลุ้นผลใน 3 รัฐสุดท้าย ขณะที่รัฐจอร์เจียต้องมีการเลือกตั้งชี้ขาดในวันที่ 6 ธันวาคมที่จะถึงนี้ หลังจากที่ไม่มีผู้สมัครคนใดได้คะแนนเสียงเกิน 50% โดยผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตที่มีคะแนนมากสุดได้คะแนนเสียงเพียง 49.6% ยังไม่เพียงพอที่จะคว้าเก้าอี้ ส.ว. ในรัฐนี้
ล่าสุดพรรครีพับลิกันยังคงมีจำนวนที่นั่งในสภาสูงอยู่ที่ 49 ที่นั่ง นำพรรคเดโมแครตอยู่เพียง 1 ที่นั่งเท่านั้น (48 ที่นั่ง) ส่วนการนับคะแนนใน 2 รัฐ คือ แอริโซนา ผู้สมัครจากเดโมแครตยังคงมีคะแนนนำ ขณะที่รัฐเนวาดา ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันพลิกนำเจ้าของฐานเสียงเดิมจากเดโมแครตราว 13,000 คะแนน หลังนับคะแนนไปแล้ว 86%
โดยในปีนี้มีพลเมืองอเมริกันราว 42 ล้านคน ตัดสินใจเลือกตั้งล่วงหน้าและเลือกตั้งผ่านช่องทางไปรษณีย์ก่อนวันที่ 8 พฤศจิกายน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 39.1 ล้านคน ในการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ปี 2018
การที่สหรัฐฯ ประกาศผลการเลือกตั้งกลางเทอมในปีนี้ล่าช้านั้นเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งจากการที่ต้องจัดการเลือกตั้งรอบสองในรัฐจอร์เจียที่กล่าวไปแล้วข้างต้น อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญมาจากระยะเวลาและวิธีการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งในช่องทางต่างๆ ที่ในแต่ละรัฐจะแตกต่างกันออกไป
บางรัฐอาจล่าช้าจากการตรวจสอบและยืนยันลายมือชื่อของผู้ลงคะแนนเสียง บางรัฐอาจได้รับบัตรลงคะแนนเสียงผ่านช่องทางไปรษณีย์ล่าช้า บางรัฐเป็นรัฐขนาดใหญ่จึงใช้ระยะเวลาในการนับคะแนนยาวนานกว่ารัฐอื่นๆ เช่น รัฐแคลิฟอร์เนีย
สำหรับรัฐเพนซิลเวเนีย เป็น 1 ใน 8 รัฐที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เลือกตั้งเริ่มดำเนินการนับคะแนนในวันเลือกตั้งเท่านั้น ส่วนรัฐแมริแลนด์มีข้อบังคับที่กำหนดให้การเริ่มนับคะแนนเสียงบัตรเลือกตั้งของผู้เลือกตั้งล่วงหน้าและบัตรเลือกตั้งผ่านช่องทางไปรษณีย์ไม่สามารถทำได้จนกว่าเวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น
โดยวอชิงตัน ดี.ซี. และอีก 16 รัฐ ไม่อนุญาตให้นับคะแนนได้จนกว่าคูหาเลือกตั้งจะปิดลง ขณะที่อีก 23 รัฐอนุญาตให้เริ่มนับบัตรเลือกตั้งก่อนปิดหีบได้เล็กน้อย มีเพียง 10 รัฐเท่านั้นที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เลือกตั้งเข้าถึงบัตรเลือกตั้งจะเริ่มนับคะแนนได้ ก่อนที่คูหาเลือกตั้งจะเปิดขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ยังมีกระแสการไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งและมองว่าการเลือกตั้งอาจเกิดการทุจริต ไม่โปร่งใส ซึ่งทำให้ทางการในแต่ละรัฐจะต้องรอบคอบและแม่นยำในการนับคะแนนเสียง เพื่อลดคำครหาที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาภายหลัง
ภาพ: Nick Hagen for The Washington Post via Getty Images
อ้างอิง:
