สำนักข่าว AP รายงานว่า บรรยากาศการพบปะหารือกันระหว่าง หลิวเหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน และ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่เมืองซูริก สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันพุธที่ 18 มกราคม เป็นไปอย่างชื่นมื่น โดยทั้งสองฝ่ายต่างตกลงให้คำมั่นที่จะจับมือทำงานร่วมกัน ก้าวผ่านความต่าง และเผชิญกับความท้าทายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โลกร้อน และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมถึงป้องกันไม่ให้การแข่งขันกลายเป็นความขัดแย้ง
ทั้งนี้ การประชุมระดับทวิภาคีที่มีการพบปะกันแบบตัวต่อตัวระหว่างเยลเลนกับหลิว เหอครั้งนี้ถือเป็นการติดต่อระดับสูงสุดระหว่างสองประเทศ นับตั้งแต่ที่ผู้นำสหรัฐฯ กับจีนได้บรรลุข้อตกลงเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วเพื่อมองหาความร่วมมือที่มีศักยภาพ
ขณะที่เยลเลนย้ำว่าจะเดินหน้าแสวงหาความร่วมมือกับจีนเพิ่มเติม รองนายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า จีนพร้อมที่จะทำงานร่วมกันเพื่อแสวงหาจุดร่วมระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยไม่ว่าสถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างไร จีนกับสหรัฐฯ ควรรักษาการเจรจาและแลกเปลี่ยนการค้าซึ่งกันและกันไว้เสมอ
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ แถลงผลการประชุมที่กินเวลาราว 2 ชั่วโมงครึ่ง ระบุว่า ทั้งสองเห็นพ้องกันว่าสหรัฐฯ และจีนจะร่วมมือกันมากขึ้นในประเด็นเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และทำงานเพื่อสนับสนุน ‘ประเทศกำลังพัฒนาในการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด’ ขณะเดียวกัน เยลเลนยังมีแผนจะเดินทางไปจีนและต้อนรับตัวแทนจีนที่สหรัฐฯ ในอนาคตอันใกล้นี้
การพบปะกันครั้งนี้ยังมีขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ และจีน กำลังต่อสู้กับความท้าทายด้านการค้า เทคโนโลยี และอื่นๆ ที่แตกต่างแต่เกี่ยวพันกัน
เยลเลนยังใช้โอกาสนี้กล่าวกับหลิวเหอว่า ในขณะที่ทั้งสองประเทศยังมีข้อขัดแย้ง จีนกับสหรัฐฯ จะมีการสื่อสารพูดคุยกันโดยตรง และไม่ควรปล่อยให้ความเข้าใจผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกิดจากการขาดการสื่อสาร ทำให้เศรษฐกิจทวิภาคีและความสัมพันธ์ทางการเงินของสหรัฐฯ กับจีนแย่ลงโดยไม่จำเป็น
ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานว่า หลิวเหอแสดงความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจ การค้า และเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีน และหวังว่าสหรัฐฯ จะให้ความสนใจกับผลกระทบของนโยบายเหล่านั้นต่อทั้งสองฝ่าย ขณะเดียวกันก็เห็นตรงกันกับเยลเลน ให้สหรัฐฯ กับจีนมีการสื่อสารอย่างจริงจัง โดยย้ำว่าทั้งสองฝ่ายต้องมองภาพรวมและพยายามจัดการข้อพิพาทอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาเสถียรภาพในความสัมพันธ์
รายงานระบุว่า สหรัฐฯ กับจีนต่างเห็นชอบที่จะจับมือร่วมเผชิญหน้ากับปัจจัยท้าทายต่างๆ โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อน โดยจะร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การพึ่งพาพลังงานสะอาด และจะทำงานร่วมกันมากขึ้นในประเด็นด้านเศรษฐกิจการค้า พร้อมย้ำว่าทั้งสองประเทศมีความรับผิดชอบในการจัดการความแตกต่างของตนเองเพื่อป้องกันไม่ให้การแข่งขันบานปลายกลายเป็นความขัดแย้ง
สำหรับการเจรจาที่เมืองซูริกเป็นการติดตามผลการประชุมในเดือนพฤศจิกายนระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน นอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G20 ที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยผู้นำโลกทั้งสองเห็นพ้องที่จะมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่อาวุโสคนสำคัญทำงานในด้านความร่วมมือที่มีศักยภาพ รวมถึงการจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และรักษาเสถียรภาพทางการเงิน สุขภาพ และอาหารทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนได้ตัดการติดต่อดังกล่าวกับสหรัฐฯ เพื่อประท้วงการเดินทางของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้นไปยังไต้หวันในเดือนสิงหาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เจเน็ต เยลเลน ยืดอกยอมรับ คาดการณ์เงินเฟ้อผิดพลาด แต่เชื่อว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
- สีจิ้นผิง ขึ้นเวที G20 เรียกร้องประชาคมโลกจับมือฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
- ซีอีโอ JPMorgan เตือน เศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 6-9 เดือน
อ้างอิง: