สหรัฐฯ ตั้งเป้าเตรียมสั่งซื้อวัคซีนโควิด-19 จาก Pfizer 500 ล้านโดส ช่วยเหลือกลุ่มประเทศรายได้น้อยในประชาคมโลก

วันนี้ (10 มิถุนายน) สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตั้งเป้าเตรียมสั่งซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จาก Pfizer จำนวน 500 ล้านโดส เพื่อช่วยเหลือกลุ่มประเทศรายได้น้อย 92 ประเทศและสหภาพแอฟริกาให้สามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดย 200 ล้านโดสแรกจะจัดส่งให้ภายในปีนี้ผ่านโคงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก (WHO) และพันธมิตรที่จัดตั้งขึ้น เพื่อสนับสนุนการเข้าถึงวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างเท่าเทียมในประชาคมโลก ขณะที่อีก 300 ล้านโดส คาดว่าจะจัดส่งให้แล้วเสร็จภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022

โจ ไบเดน จะประกาศแผนการช่วยเหลือวัคซีนนี้อย่างเป็นทางการอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ ก่อนหน้าที่การประชุมสุดยอดผู้นำ G7 ครั้งที่ 47 จะเปิดฉากขึ้นอย่างเป็นทางการที่คอร์นวอลล์ สหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 11-13 มิถุนายนนี้ มีผู้นำประเทศจาก แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ญี่ปุ่น, สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา รวมถึง สหภาพยุโรป เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้

โดยตั้งเป้าจะร่วมมือกันยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในเดือนธันวาคม ปี 2022 ที่จะถึงนี้ พร้อมร่วมสนับสนุนวัคซีนต้านโควิด-19 อย่างน้อย 1 พันล้านโดส ภายในปีหน้า เพื่อเพิ่มจำนวนปริมาณวัคซีนให้ครอบคลุมและเพียงพอต่อจำนวนประชากรวัยผู้ใหญ่ราว 80% ทั่วโลก

ล่าสุดทั่วโลกฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 2.22 พันล้านโดส ซึ่งส่วนใหญ่กว่า 56% ถูกฉีดให้กับประชาชนในทวีปเอเชีย ขณะที่มีเพียง 1.77% เท่านั้นที่ถูกฉีดใหักับประชาชนในทวีปแอฟริกา โดยจีนนำเป็นอันดับ 1 ประเทศที่ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 มากที่สุดในเชิงปริมาณขณะนี้ ฉีดวัคซีนไปแล้วกว่า 808.96 ล้านโดส ตามมาด้วยสหรัฐฯ (304.75 ล้านโดส) อินเดีย (233.68 ล้านโดส) บราซิล (74.54 ล้านโดส) และสหราชอาณาจักร (68.8 ล้านโดส)