วานนี้ (18 เมษายน) ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) ปลดล็อก 89 ประเทศในลิสต์แนะห้ามเดินทาง ‘Do Not Travel’ ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศในระดับเตือนภัยสูงสุดระดับที่ 4 เนื่องจากสถานการณ์โควิด โดยต่อไประดับการเตือนภัยสูงสุดนี้จะสงวนไว้ให้กับสถานการณ์พิเศษในบางประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิดรุนแรงมาก มีผู้ติดเชื้อพุ่งสูง เกิดเชื้อกลายพันธ์ุสายพันธ์ุใหม่ หรือระบบสาธารณสุขของประเทศนั้นๆ ล่มสลายเนื่องจากโรคระบาด
ขณะที่กลุ่มประเทศในระดับที่ 1-3 ยังจะพิจารณาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดหรือจำนวนเคสผู้ติดเชื้อในช่วง 28 วัน โดยการประกาศปลดล็อกประเทศดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลกลางสหรัฐฯ มีคำสั่งให้สวมหน้ากากอนามัยขณะโดยสารเครื่องบินหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ ไปจนถึงอย่างน้อยวันที่ 3 พฤษภาคมนี้ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดหรือแพร่กระจายเชื้อ
โดยประเทศส่วนใหญ่ในประชาคมโลก CDC จัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศระดับที่ 3 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิดอยู่ในเกณฑ์สูง ตัวอย่างประเทศที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ ไทย, ออสเตรเลีย, แคนาดา, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, เวียดนาม และสหราชอาณาจักร
ส่วนโบลิเวีย, เปรู, อิรัก, แอฟริกาใต้ และศรีลังกา เป็นส่วนหนึ่งจาก 12 ประเทศและดินแดนที่ได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มระดับที่ 2
ขณะที่เมียนมา ฟิลิปปินส์ และติมอร์-เลสเต เป็นเพียง 3 ประเทศในย่านอาเซียนที่ได้รับการจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่มีการแพร่ระบาดของโควิดอยู่ในเกณฑ์ระดับที่ 1 นอกจากนี้ ทางการ CDC ยังจัดให้บางประเทศและดินแดนอยู่ในกลุ่มที่ไม่สามารถระบุสถานกาณ์ด้านโควิดได้ชัดเจน เช่น อัฟกานิสถาน, กัมพูชา, คาซัคสถาน, มาเก๊า, เกาหลีเหนือ, ซูดาน, ซีเรีย, เติร์กเมนิสถาน, ยูเครน, เวเนซุเอลา และเยเมน
แฟ้มภาพ: Maxx-Studio / Shutterstock
อ้างอิง:
