ทุกคนต่างรับรู้ว่า การระบาดของโควิด-19 สร้างความบอบช้ำให้กับเศรษฐกิจ และเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องมีคนตกงาน แต่ในสหรัฐอเมริกาคาดไม่ถึงว่า เพียง 1 สัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 21 มีนาคมที่ผ่านมา มีชาวอเมริกันมายื่นขอสวัสดิการการว่างงานถึง 3.2 ล้านราย ก้าวกระโดดจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่มีเพียง 282,000 รายเท่านั้น
ตัวเลขดังกล่าวถือว่าทุบสถิติ นับตั้งแต่กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ เริ่มเก็บข้อมูลในปี 1967 หรือ 53 ปีก่อน และตัวเลขนี้ยังมากกว่าครั้งที่เคยบันทึกว่าสูงสุดในวันที่ 2 ตุลาคม 1982 ซึ่งมีประมาณ 695,000 ราย
ก่อนหน้าที่การระบาดจะเริ่มต้นขึ้น มีผู้ยื่นขอสวัสดิการการว่างงานต่ำกว่า 200,000 ราย ชี้ให้เห็นว่า ธุรกิจยังประคองตัวเองได้อยู่ แต่จากตัวเลขที่พุ่งไปที่ 3.2 ล้านราย ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลันและรุนแรง ถึงขนาดมีการเปรียบเทียบสถานการณ์เช่นนี้ว่า เหมือนเกิดพายุเฮอริเคนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ไฮดี เชียร์ฮอลซ์ อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ประเมินว่า การว่างงานที่เพิ่มขึ้นเป็นเพียงปลายสุดของภูเขาน้ำแข็ง แต่ “เราคาดการณ์ว่า ในช่วงฤดูร้อนจะมีชาวอเมริกัน 14 ล้านคน ตกงาน เนื่องจากการระบาดของโควิด-19”
ขณะนี้นักเศรษฐศาสตร์คาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสที่ 2 ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในช่วงปลายปี หลังจากการแพร่กระจายของโควิด-19 เริ่มเบาบางลง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: