ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทเมื่อวานนี้ (14 มิถุนายน) ปิดตลาดแบบผสมผสาน โดยดัชนี S&P 500 และดัชนีแนสแด็ก ปิดตลาดปรับตัวในแดนบวกและทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ระลอกใหม่ ขณะที่ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนกำลังประเมินสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด รวมถึงรอดูท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ที่กำลังประชุมหารือเพื่อกำหนดทิศทางนโยบายทางการเงินระหว่างวันที่ 15-16 มิถุนายนนี้
โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 85.85 จุด หรือ 0.25 % ปิดที่ 34,393.75 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.71 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 4,255.15 จุด ซึ่งได้แรงหนุนจากหุ้นของ Apple ที่เพิ่มขึ้น 2.3% และหุ้น Adobe ที่เพิ่มขึ้น 2.8% เช่นเดียวกับหุ้น Facebook และ Netflix ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4 และ 2.5% ตามลำดับ ส่วนดัชนีแนสแด็กเพิ่มขึ้น 104.72 จุด หรือ 0.74% ปิดที่ 14,174.14 จุด
สำหรับหุ้นในกลุ่มธนาคารและสถาบันการเงินยังคงเป็นหุ้นที่อยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่สถานการณ์โดยรวมในตลาดทุน นักลงทุนส่วนใหญ่ต่างเฝ้ารอสัญญาณใหม่ๆ จาก Fed เกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อ หลังข้อมูลเมื่อเร็วๆ นี้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กำลังเติบโตในระดับดี คือไม่มากจนเกินไป ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเงินเฟ้อ
หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า Fed น่าจะยืนยันจุดยืนเกี่ยวกับเงินเฟ้อว่าเป็นการปรับขึ้นชั่วคราว แต่บรรดาคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) จะหารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะลดระดับการเข้าซื้อพันธบัตร แต่ท้ายที่สุดแล้ว Fed น่าจะยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการลดระดับเข้าซื้อพันธบัตร ก่อนการประชุมประจำของทางธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิง ในเดือนสิงหาคม
ด้านราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอีก ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยอัตราพผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเพิ่มขึ้นจาก 1.46% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มาอยู่ที่ 1.50%
ขณะที่ราคาน้ำมันมีการขยับทั้งขึ้นและลงเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางความคาดหวังว่าราคาน้ำมันจะกลับมาอยู่ในช่วงตลาดขาขึ้น ตามการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19 เริ่มคลี่คลายและมีการเร่งกระจายการฉีดวัคซีนทั่วโลก
โดยสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสงวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม ลดลง 3 เซนต์ ปิดที่ 70.88 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนต์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ ปิดที่ 72.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
รายงานระบุว่า ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวในแดนลบ เป็นผลสืบเนื่องจากรายงานสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานแห่งสหรัฐฯ (EIA) ที่ประมาณการกำลังผลิตน้ำมันชั้นหิน ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 2 ใน 3 ของกำลังผลิตสหรัฐฯ ว่าน่าจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 38,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฏาคม เป็นราวๆ 7.8 ล้านบาร์เรลต่อวันแทน
ในส่วนของราคาทองคำ เมื่อวันจันทร์ (14 มิถุนายน) ปิดลบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม ลดลง 13.70 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ 1,865.90 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/06/13/us-stock-futures-are-flat-with-the-sp-500-at-a-record-high.html
- https://apnews.com/article/financial-markets-business-ba5e78a55eeb923cec0ca3a8f09d5102
- https://apnews.com/article/financial-markets-business-bb9605985b9e1b91add031e433cd41fa
- https://www.aljazeera.com/economy/2021/6/14/oil-holds-near-multi-year-highs-as-vaccine-rollout-pushes-demand