สำนักข่าว Reuters รายงานในวันนี้ (6 กุมภาพันธ์) อ้างข้อมูลจาก 2 เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเปิดเผยว่า รัสเซียมีกำลังรบที่พร้อมสำหรับการเปิดฉากบุกจู่โจมยูเครนเต็มรูปแบบแล้วประมาณ 70% และยังมีการเสริมกองพันยุทธวิธีในพื้นที่ชายแดนเพิ่มขึ้นด้วย
โดยเจ้าหน้าที่ทั้งสองซึ่งให้สัมภาษณ์แบบไม่เปิดเผยตัวตน เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ระบุว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวนกองพันยุทธวิธีของรัสเซียที่ถูกส่งไปประจำการชายแดนติดกับยูเครนนั้นเพิ่มขึ้นจาก 60 กองพัน เป็น 83 กองพัน และกำลังอยู่ระหว่างการส่งไปเพิ่มอีก 14 กองพัน
ขณะที่ช่วงเวลาในการเปิดฉากรุกรานยูเครนนั้นคาดว่าอาจเกิดขึ้นในช่วงที่สภาพพื้นดินหนาวเย็นจนถึงจุดเยือกแข็ง ซึ่งจะทำให้พื้นดินแข็งแกร่งมากขึ้น ช่วงประมาณวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เนื่องจากจะทำให้รัสเซียสามารถขนส่งเครื่องจักรและอุปกรณ์หนักของกองทัพได้ โดยสภาพพื้นดินที่แข็งเช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงประมาณปลายเดือนมีนาคม
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทั้ง 2 นาย ไม่เปิดเผยหลักฐานยืนยันการประเมินกำลังรบของรัสเซีย โดยระบุว่าข้อมูลดังกล่าวอ้างอิงจากข่าวกรอง แต่ไม่สามารถให้รายละเอียดได้เนื่องจากเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน และพวกเขายังไม่รู้แน่ชัดว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย จะตัดสินใจเปิดฉากรุกรานยูเครนจริงหรือไม่ ขณะที่เชื่อว่าหนทางการยุติปัญหาผ่านช่องทางการทูตนั้นยังมีความเป็นไปได้
ทั้งนี้ รัสเซียได้เคลื่อนกำลังทหารมากกว่า 100,000 นาย ไปประจำใกล้แนวชายแดนติดกับยูเครนตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยรัฐบาลเครมลินยืนยันมาตลอดว่า ไม่มีแผนรุกรานยูเครน แต่อาจมีการดำเนินการทางทหารหากถูกปฏิเสธข้อเรียกร้องด้านความมั่นคงที่เสนอต่อสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ซึ่งรวมถึงการขอให้รับรองว่ายูเครนจะไม่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การ NATO
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทั้งฝ่ายสหรัฐฯ และ NATO ต่างแสดงท่าทีชัดเจนในการปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวของรัสเซีย ขณะที่รัสเซียยืนยันว่ายังไม่ปิดประตูเจรจา แต่การเสริมกำลังรบเพิ่มขึ้นบริเวณแนวชายแดนยูเครนนั้นอาจเป็นสัญญาณว่าช่องทางการทูตสำหรับแก้ไขวิกฤตตึงเครียดครั้งนี้กำลังใกล้จะปิดลง
ภาพ: Photo by Sergei Malgavko\TASS via Getty Images
อ้างอิง: