สำนักข่าว Reuters รายงานข้อมูลจากแหล่งข่าวในรัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า กองทัพเมียนมาพยายามที่จะโยกย้ายเงินกองทุนของรัฐบาลเมียนมา จำนวนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 30,000 ล้านบาท ที่ถูกเก็บไว้ในธนาคารกลางสหรัฐฯ ในนครนิวยอร์ก (New York Fed)
โดยความพยายามทำธุรกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ หลังกองทัพเมียนมาก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอายัดเงินกองทุนดังกล่าว
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับเรื่องนี้เปิดเผยว่า New York Fed ได้ขัดขวางการทำธุรกรรมดังกล่าว ที่ทำภายใต้ชื่อของธนาคารกลางเมียนมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะระงับการโอนย้ายเงินจากกองทุนของเมียนมา กระทั่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามคำสั่งพิเศษให้อำนาจตามกฎหมายในการสกัดกั้นการทำธุรกรรมแบบไม่จำกัดระยะเวลา
ความพยายามโยกย้ายเงินกองทุนดังกล่าว เกิดขึ้นหลังกองทัพเมียนมาแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารกลางเมียนมาคนใหม่ และจับกุมเจ้าหน้าที่หลายคนที่ต่อต้านกองทัพ ซึ่งถือเป็นอีกความพยายามเพื่อจำกัดผลกระทบการคว่ำบาตรจากนานาชาติ
ขณะที่ Reuters เผยว่า โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมาไม่ยอมรับสายหรือแสดงท่าทีใดๆ ในกรณีนี้ ขณะที่ผู้สื่อข่าวของ Reuters ไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ในธนาคารกลางเพื่อสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมา สหรัฐฯ แคนาดา อังกฤษ และสหภาพยุโรป ต่างประกาศมาตรการคว่ำบาตรตอบโต้การทำรัฐประหาร และการใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงของกองทัพเมียนมา
โดยเมื่อวานนี้ (4 มีนาคม) สหประชาชาติเปิดเผยว่า มีกลุ่มผู้ประท้วงเมียนมาอย่างน้อย 54 คน ที่ถูกสังหารนับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร และถูกจับกุมมากกว่า 1,700 คน ในจำนวนนี้เป็นนักข่าว 29 คน
สำหรับบัญชีกองทุนของเมียนมาจะถูกจัดการโดยหน่วยงานของ New York Fed ที่เรียกว่าฝ่ายบริการธนาคารกลางและบัญชีระหว่างประเทศ (CBIAS) ซึ่งให้บริการธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ในการเก็บเงินสำรองสกุลดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเป้าหมายต่างๆ เช่น การสรุปรายการธุรกรรม (Settling Transactions)
ซึ่งความพยายามโอนเงินบัญชีกองทุนที่ทำในชื่อของธนาคารกลางเมียนมาเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์นั้น ถูกสกัดกั้นอัตโนมัติตามกระบวนการของ New York Fed ที่มีมาตั้งแต่ก่อนเกิดรัฐประหาร
ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งเผยว่า เป็นเพราะการทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับเมียนมา จะต้องมีการตรวจสอบเป็นพิเศษ เนื่องจากปีที่แล้วเมียนมาถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม ‘บัญชีเทา’ ของคณะทำงานด้านการเงินระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันปัญหาการฟอกเงิน เนื่องจากมีความเสี่ยงที่อาจมีการนำเงินจากการค้ายาเสพติดมาฟอกเงินผ่านบัญชีธนาคาร
ภาพ: Cem Ozdel / Anadolu Agency / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
