กระทรวงแรงงานสหรัฐอเมริกา ได้เปิดเผยอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในเดือนพฤษภาคม โดยอยู่ที่ 5% ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาดที่ 4.7% และเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี
อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังเชื่อว่า ตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงนี้เกิดจากปัจจัยชั่วคราว ซึ่งจะคลายตัวลงในช่วงที่เหลือของปี นอกจากนี้ยังมองว่าตัวเลขเงินเฟ้อที่ดูสูงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากฐานที่ต่ำในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจถูกจำกัดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ปัจจัยข้างต้นทำให้ตลาดยังคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่น่าจะมีปฏิกิริยาต่อตัวเลขเงินเฟ้อล่าสุดนี้ในการประชุมนโยบายช่วงสัปดาห์หน้า
ในวันเดียวกัน ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและวงเงินการซื้อพันธบัตรในการประชุมนโยบายการเงินวันนี้ (10 มิถุนายน) ตามคาด
การตัดสินใจครั้งนี้ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปยังคงอยู่ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับธนาคารกลางอยู่ที่ระดับ -0.5% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 0.25%
นอกจากนี้ ECB ยังมีมติคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามโครงการ Pandemic Emergency Purchase Programme ที่ระดับ 1.85 ล้านล้านยูโร โดยจะซื้อพันธบัตรตามโครงการดังกล่าวจนถึงเดือนมีนาคมปีหน้า หรือจนกว่าวิกฤตโรคระบาดจะยุติลง
ในแถลงการณ์ของ ECB ระบุว่า คณะกรรมการนโยบายการเงินยุโรปคาดหวังจะเห็นอัตราดอกเบี้ยคงอยู่ในระดับปัจจุบันหรือต่ำกว่า จนกว่าจะเห็นแนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมาย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: