×

IMF เตือน ‘ความไม่แน่นอนจากการเลือกตั้งสหรัฐฯ’ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

24.10.2024
  • LOADING...
เศรษฐกิจโลก

ในขณะที่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาปี 2024 กำลังใกล้เข้ามา กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจโลก โดยเน้นว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองอาจเพิ่มความผันผวนทางการเงินทั่วโลก

 

ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับรายงาน Global Financial Stability Report (GFSR) ผู้เชี่ยวชาญจาก IMF ย้ำว่า จะไม่แสดงความเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้งและการเมืองของประเทศใดโดยเฉพาะ แต่ในเชิงหลักการระบุถึงความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเงินที่มาจากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้น และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกโดยรวม

 

การเลือกตั้งสหรัฐฯ และความผันผวนทางเศรษฐกิจ

 

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี และ คามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดี ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ IMF เน้นถึงเหตุการณ์สำคัญนี้ ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจกระทบต่อการดำเนินงานของตลาดโลก โทเบียส อาเดรียน ที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและตลาดทุนของ IMF กล่าวถึงความผันผวนที่อาจเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งนี้

 

“กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกได้เลือกตั้งหรือกำลังจะเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในปีนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความไม่แน่นอนของนโยบายทั่วโลกสูงขึ้น” อาเดรียนกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกิดขึ้นในปีนี้ ซึ่งระบุในรายงาน GFSR ที่เปิดเผยในวันที่ 22 ตุลาคมที่ผ่านมา

 

อาเดรียนกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ยังคงมีเสถียรภาพค่อนข้างมาก แต่ความไม่แน่นอนกลับปรากฏมากขึ้นในความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุน เขากล่าวว่า “ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น เรากลับไปสู่ระดับที่คล้ายกับช่วงก่อนวิกฤตการเงินโลก ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น”

 

ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางการเงิน

 

IMF ยังกล่าวถึงข้อกังวลเกี่ยวกับหนี้ภาครัฐที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ โดยไม่คำนึงถึงผลของการเลือกตั้ง อาเดรียนอธิบายว่า ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินแล้ว แต่การคาดการณ์เกี่ยวกับหนี้ภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้นยังคงเป็นปัญหาใหญ่

 

“เราเห็นความผันผวนในอัตราผลตอบแทนระยะยาวตลอดทั้งปี แต่เราไม่คิดว่าความผันผวนนั้นจะมากเกินไป เมื่อเทียบกับความเป็นจริงที่ว่านโยบายการเงินกลายเป็นการพึ่งพาข้อมูลมากขึ้น” เขากล่าว

 

ผลกระทบต่อประเทศตลาดเกิดใหม่

 

ประเด็นสำคัญที่หยิบยกขึ้นมาคือการเปลี่ยนแปลงของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังการเลือกตั้งอาจส่งผลกระทบต่อตลาดโลก โดยเฉพาะในประเทศตลาดเกิดใหม่ อาเดรียนอธิบายว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในสหรัฐฯ อาจมีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุน ทำให้การเข้าถึงแหล่งเงินทุนระหว่างประเทศสำหรับประเทศกำลังพัฒนายากขึ้น

 

“ตลาดการเงินมีความเชื่อมโยงกันทั่วโลก ดังนั้นระดับฐานของอัตราดอกเบี้ยกำลังเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันทั่วโลก” อาเดรียนกล่าว การเคลื่อนไหวระดับอัตราดอกเบี้ยทั่วโลกนี้อาจทำให้ประเทศตลาดเกิดใหม่ที่มีภาระหนี้สูงต้องเผชิญกับความท้าทายมากยิ่งขึ้น

 

เจสัน วู ผู้อำนวยการฝ่ายช่วยเหลือของ IMF เสริมว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ อาจมีผลต่อการไหลของเงินทุนในระยะกลาง โดยเฉพาะในแอฟริกา “ตลาดการเงินมักเห็นความไม่แน่นอนมากขึ้นในช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินทั่วโลก รวมถึงในแอฟริกาด้วย” วูเตือน พร้อมทั้งอธิบายว่า การลงทุนในตลาดเหล่านี้อาจชะลอตัวลง เนื่องจากนักลงทุนอาจรอดูผลลัพธ์ก่อนตัดสินใจลงทุน

 

ความกังวลเรื่องหนี้ในประเทศตลาดเกิดใหม่

 

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือการเพิ่มขึ้นของภาระหนี้ในหลายประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพาการกู้ยืมจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก อาเดรียนกล่าวว่า หลายประเทศในกลุ่มนี้สามารถกลับเข้าสู่ตลาดทุนระหว่างประเทศได้สำเร็จในปีนี้ แต่ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญ โดยเฉพาะจากผลกระทบของการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้น

 

“มีประเทศที่ต้องเผชิญกับปัญหาหนี้และสภาพคล่อง และเรากำลังทำงานร่วมกับสมาชิกของเราเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น” อาเดรียนกล่าวถึงความพยายามของ IMF ในการสนับสนุนประเทศที่ต้องการโครงสร้างหนี้ใหม่

 

IMF เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายในประเทศตลาดเกิดใหม่ดำเนินมาตรการทางการคลังเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ที่ยังคงสูงหลังการเลือกตั้งอาจกดดันความยั่งยืนของหนี้ในประเทศเหล่านี้

 

ความเสี่ยงของการปรับราคาสินทรัพย์ในตลาดโลก

 

หนึ่งในคำเตือนสำคัญของ IMF ในรายงาน GFSR คือ ความเสี่ยงที่ราคาสินทรัพย์ในตลาดโลกอาจปรับตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจเกิดจากความไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งสหรัฐฯ อาเดรียนยกตัวอย่างเหตุการณ์การเทขายในตลาดหุ้นช่วงสั้นๆ ในเดือนสิงหาคม 2024 เป็นสัญญาณเตือนถึงการปรับตัวที่อาจเกิดขึ้นฉับพลัน

 

“มีความแตกต่างระหว่างความผันผวนที่ประเมินโดยตลาดการเงินกับการประเมินความไม่แน่นอนทางการเมืองหรือเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้เรากังวลว่าความตึงเครียดนี้อาจทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขทางการเงินอย่างรวดเร็ว” อาเดรียนกล่าว

 

ความไม่แน่นอนนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่รวดเร็วและรุนแรง โดยเฉพาะหากเกิดเหตุการณ์ทางการเมืองหรือเศรษฐกิจที่ไม่คาดคิดจากการเลือกตั้งในสหรัฐฯ

 

บทบาทของ Fed ในสภาพคล่องทางการเงินโลก

 

นอกจากความไม่แน่นอนในการเลือกตั้งแล้ว ผู้เชี่ยวชาญของ IMF ยังพูดถึงการคุมเข้มนโยบายทางการเงิน (Quantitative Tightening) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินทั่วโลก อาเดรียนอธิบายว่า การลดการถือครองสินทรัพย์ของ Fed อาจทำให้ตลาดผันผวนมากขึ้น

 

“ยังมีความเสี่ยงที่ความผันผวนจะเพิ่มขึ้น เพราะเรากำลังย้ายจากการที่ธนาคารกลางเป็นผู้ซื้อพันธบัตรรายใหญ่ไปสู่การซื้อที่มีความอ่อนไหวต่อราคามากขึ้น” อาเดรียนกล่าวถึงความเสี่ยงนี้

 

สรุป

 

การเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังใกล้เข้ามา สร้างความไม่แน่นอนทางการเมืองที่อาจส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่อัตราดอกเบี้ยในสหรัฐฯ ที่ผันผวน ไปจนถึงการทำให้สภาพคล่องทางการเงินโลกตึงเครียด IMF เน้นย้ำถึงความจำเป็นที่ผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกต้องเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังต่อความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

 

อาเดรียนสรุปว่า “เราค่อนข้างสบายใจกับระดับอัตราผลตอบแทนและการทำงานของตลาดที่เราเห็นในปัจจุบัน” แต่ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ใกล้เข้ามาอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงและมีผลกระทบต่อระบบการเงินโลก

 

ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้การเลือกตั้งสหรัฐฯ จะยังคงเป็นจุดสำคัญสำหรับทั้งตลาดการเงินและผู้กำหนดนโยบายทั่วโลก ซึ่งผลลัพธ์ของการเลือกตั้งอาจกำหนดเส้นทางเศรษฐกิจโลกในอีกหลายปีข้างหน้า

 

ทั้งนี้ ณัฏฐา โกมลวาทิน ผู้อำนวยการฝ่ายข่าว THE STANDARD และ ศิรัถยา อิศรภักดี ผู้ดำเนินรายการ THE STANDARD WEALTH ได้รับเชิญเข้าร่วม ‘IMF Journalism Fellowship Program 2024 Annual Meetings’ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา

 
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X