กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (Department of Justice) เปิดเผยคำฟ้องในวันนี้ที่ศาลรัฐบาลกลางในบรุกลิน นิวยอร์ก โดยตั้งข้อหา เฉิน จื้อ (Chen Zhi) หรือที่รู้จักในชื่อ วินเซนต์ (Vincent) วัย 37 ปี สัญชาติอังกฤษและกัมพูชา ผู้ก่อตั้งและประธานของ Prince Holding Group (Prince Group) ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทข้ามชาติที่มีฐานอยู่ในประเทศกัมพูชา ในข้อหาสมคบคิดกันฉ้อโกงผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์และสมคบคิดกันฟอกเงิน จากการบงการเครือข่าย ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ที่ใช้แรงงานที่ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยไม่สมัครใจ ในการหลอกลวงการลงทุนคริปโตในรูปแบบ ‘Pig Butchering’ สร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์จากเหยื่อในสหรัฐฯ และทั่วโลก
พร้อมกันนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องเพื่อริบทรัพย์สินทางแพ่งครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยการยึด Bitcoin จำนวนประมาณ 127,271 BTC ซึ่งมีมูลค่าปัจจุบันราว 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 5 แสนล้านบาท โดยระบุว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด และปัจจุบันอยู่ในความดูแลของรัฐบาลสหรัฐฯ แล้ว
แคช พาเทล ผู้อำนวยการ FBI กล่าวว่า “วันนี้ FBI และพันธมิตรได้ปฏิบัติการทลายเครือข่ายการฉ้อโกงทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ นี่คือบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าดำเนินการเครือข่ายอาชญากรรมขนาดใหญ่ข้ามหลายทวีป ซึ่งเกี่ยวข้องทั้งการใช้แรงงานทาส, การฟอกเงิน และหลอกลวงผ่านการลงทุน”
จอห์น เอ. ไอเซนเบิร์ก ผู้ช่วยรัฐมนตรียุติธรรมฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติ กล่าวเสริมว่า “ตามข้อกล่าวหา จำเลยคือผู้บงการเบื้องหลังอาณาจักรการฉ้อโกงทางไซเบอร์ที่กว้างขวางภายใต้ร่มของ Prince Group ซึ่งเป็นองค์กรอาชญากรรมที่สร้างขึ้นบนความทุกข์ทรมานของมนุษย์ เหยื่อที่ถูกค้ามนุษย์จะถูกกักขังในสถานที่ที่เหมือนเรือนจำและถูกบังคับให้ก่อเหตุหลอกลวงออนไลน์ในระดับอุตสาหกรรม”
โจเซฟ โนเซลลา จูเนียร์ อัยการสหรัฐฯ เขตตะวันออกของนิวยอร์ก กล่าวว่า “การหลอกลวงการลงทุนของ Prince Group ได้สร้างความเสียหายหลายพันล้านดอลลาร์และความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสแก่เหยื่อทั่วโลก รวมถึงที่นี่ในนิวยอร์ก โดยเหยียบย่ำบนชีวิตของบุคคลที่ถูกค้ามนุษย์และถูกบังคับให้ทำงานโดยไม่สมัครใจ คำฟ้องและการริบทรัพย์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ส่งสารที่แข็งกร้าวไปยังนักต้มตุ๋นทุกหนแห่งว่า เราจะไล่ล่าคุณไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร และไม่ว่าวิธีการอันชั่วร้ายของคุณจะเป็นอย่างไร และเราจะไม่มีวันหยุดต่อสู้เพื่อเหยื่อ”
เบื้องหลัง Prince Group จากกลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่สู่อาณาจักรอาชญากรรม
ตามเอกสารคำฟ้อง ตั้งแต่ประมาณปี 2015 จำเลยเป็นผู้ก่อตั้งและประธานของ Prince Group กลุ่มบริษัทในกัมพูชาที่ดำเนินธุรกิจหลายสิบแห่งในกว่า 30 ประเทศ
แม้ Prince Group จะมีภาพลักษณ์ภายนอกเป็นกลุ่มบริษัทที่มุ่งเน้นการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และบริการทางการเงิน แต่เบื้องหลังกลับดำเนินการ ‘ศูนย์บัญชาการแก๊งคอลเซ็นเตอร์’ (Scam Compounds) หลายแห่งทั่วกัมพูชา
พฤติกรรมของเครือข่ายนี้ประกอบด้วย การใช้แรงงานทาสโดยมีการค้ามนุษย์นำแรงงานหลายร้อยคนมากักขังในสถานที่ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูงและลวดหนาม และบังคับให้ทำงานหลอกลวงเหยื่อภายใต้การข่มขู่และความรุนแรง โดย เฉิน จื้อ มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในการบริหารจัดการและสั่งการให้มีการทำร้ายร่างกายผู้ที่สร้างปัญหา
การใช้กลลวง ‘Pig Butchering’ โดยมิจฉาชีพจะติดต่อเหยื่อผ่านแอปพลิเคชันส่งข้อความหรือโซเชียลมีเดีย สร้างความสัมพันธ์และความไว้วางใจ (เปรียบเหมือนการ ‘ขุนหมู’) ก่อนจะหลอกล่อให้โอนเงินคริปโตไปยังบัญชีที่กำหนด โดยอ้างว่าจะนำไปลงทุนและสร้างผลกำไรให้ แต่ในความเป็นจริง เงินเหล่านั้นจะถูกขโมยและนำไปฟอก
พร้อมกันนี้ ยังมีการฟอกเงินอย่างซับซ้อน โดยใช้เทคนิคการฟอกเงินคริปโตขั้นสูง เช่น Spraying หรือการกระจายเงินจำนวนมากไปยัง Wallet นับร้อย และ Funneling หรือการรวบรวมเงินกลับเข้ามาใน Wallet ไม่กี่แห่ง) เพื่อปกปิดที่มาของเงิน ก่อนจะนำไปลงทุนต่อในธุรกิจถูกกฎหมายของกลุ่ม เช่น การพนันออนไลน์ และการขุดคริปโต โดยเฉิน จื้อ เคยโอ้อวดว่าธุรกิจขุดคริปโตของเขามีกำไรมหาศาลเพราะไม่มีต้นทุนเนื่องจากใช้เงินที่ขโมยมาจากเหยื่อ
รวมไปถึงการใช้อิทธิพลและติดสินบน ใช้สายสัมพันธ์ทางการเมืองในหลายประเทศเพื่อปกป้ององค์กรอาชญากรรมของตน และจ่ายสินบนให้เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบ
เงินที่ได้จากการกระทำผิดถูกนำไปใช้จ่ายอย่างหรูหรา ทั้งการเดินทาง, ซื้อนาฬิกา, เรือยอชต์, เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว และงานศิลปะหายาก รวมถึงภาพวาดของปิกัสโซที่ซื้อผ่านการประมูลในนครนิวยอร์ก
การดำเนินการครั้งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นโดยหน่วยงานของสหรัฐฯ เพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นการประสานงานในระดับนานาชาติ โดย กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ประกาศขึ้นบัญชี Prince Group เป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งประกาศคว่ำบาตรต่อตัวเฉิน จื้อ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง ขณะที่สหราชอาณาจักรก็ได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ Prince Group เช่นกัน
ปัจจุบัน เฉิน จื้อ ยังคงหลบหนีการจับกุม หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปี FBI ได้เปิดช่องทางสำหรับผู้ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับ เฉิน จื้อ หรือ Prince Group ให้สามารถแจ้งเบาะแสได้ และเรียกร้องให้ผู้ที่เชื่อว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของการหลอกลงทุนคริปโตติดต่อศูนย์รับเรื่องร้องเรียนอาชญากรรมทาง www.ic3.gov
คำฟ้องเป็นเพียงข้อกล่าวหา จำเลยทุกคนถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะได้รับการพิสูจน์ว่ามีความผิดจริงในชั้นศาล
อ้างอิง: