เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยกับ CNN ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้แจ้งกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลว่า สหรัฐฯ จะไม่เข้าร่วมในปฏิบัติการทางทหารเชิงรุกใดๆ ต่ออิหร่าน ท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียดขึ้นในตะวันออกกลาง หลังอิหร่านโจมตีอิสราเอลด้วยโดรนและขีปนาวุธ เพื่อตอบโต้จากเหตุการณ์ที่สถานกงสุลอิหร่านในซีเรียถูกโจมตีทางอากาศเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา
ท่าทีของวอชิงตันมีขึ้นหลังเกิดกระแสความกังวลว่า สหรัฐฯ กำลังถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน และอาจกระโดดเข้าร่วมสงครามโดยตรงเพื่อปกป้องอิสราเอลตามที่เคยประกาศไว้ ซึ่งนั่นอาจทำให้สงครามขยายวงในระดับภูมิภาคหรือระดับโลก
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ เผยว่า ปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของอิหร่านครั้งนี้มีขึ้นเป็นเวลา 5 ชั่วโมง นับตั้งแต่ช่วงเช้าตรู่วันนี้ตามเวลาไทย (14 เมษายน) ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่อิสราเอลถูกอิหร่านโจมตีในแผ่นดินของตนเอง
ขณะที่อิสราเอลเผยว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถสกัดขีปนาวุธ จรวด และโดรนของอิหร่านได้ 99% จากการยิงทั้งหมด 300 ครั้ง โดยสหรัฐฯ ช่วยยิงสกัดหรือยิงตกได้จำนวนหนึ่ง และการโจมตีครั้งนี้ไม่มีใครเสียชีวิตหรือบาดเจ็บรุนแรง โดยไบเดนบอกกับเนทันยาฮูว่า ค่ำคืนที่ผ่านมาถือเป็นชัยชนะของอิสราเอล เนื่องจากการโจมตีของอิหร่านไม่ประสบความสำเร็จ ไม่มีเป้าหมายสำคัญใดๆ ที่ถูกทำลาย นอกจากนี้ยังได้แสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถในการป้องกันของอิสราเอลที่เหนือกว่า
ก่อนหน้านี้อิหร่านประกาศว่าจะโจมตีอิสราเอลเพื่อแก้แค้น หลังมีนายทหารระดับสูงและสมาชิกกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามเสียชีวิตรวม 7 นาย จากการโจมตีที่สถานกงสุลในกรุงดามัสกัส ซึ่งอิหร่านถือว่าเป็นการโจมตีดินแดนอธิปไตยของอิหร่าน และปักใจเชื่อว่าอิสราเอลอยู่เบื้องหลัง
ด้านสถานเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีของอิหร่านครั้งนี้ว่า ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ยังเน้นย้ำว่า การโจมตีครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า นานาชาติไม่ควรปล่อยให้อิหร่านพัฒนาขีดความสามารถด้านอาวุธ ซึ่งรวมถึงอาวุธนิวเคลียร์ ขีปนาวุธพิสัยไกล และเทคโนโลยีด้านอวกาศ
อย่างไรก็ตาม ผู้แทนอิหร่านในสหประชาชาติระบุก่อนหน้านี้ว่า การโจมตีของอิหร่านครั้งนี้อยู่ภายใต้การป้องกันตนเองตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ เนื่องจากถูกโจมตีสถานกงสุลก่อน ซึ่งเป็นดินแดนอธิปไตยของอิหร่าน
อิหร่านยังระบุว่า การโจมตีครั้งนี้จบลงแล้ว และบรรลุผลในการตอบโต้จากเหตุการณ์ในดามัสกัสเมื่อวันที่ 1 เมษายน พร้อมเตือนอิสราเอลไม่ให้โจมตีกลับ เพื่อไม่ทำให้สถานการณ์บานปลาย
ภาพ: Craig Hudson for The Washington Post via Getty Images
อ้างอิง: