กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาปฏิเสธข่าวที่ระบุว่าทางสหรัฐฯ กำลังพิจารณาบอยคอตการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ที่ประเทศจีนร่วมกับชาติพันธมิตร เนื่องจากปัญหาสิทธิมนุษยชน
“จุดยืนของเราสำหรับโอลิมปิกฤดูหนาว 2022 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เราไม่ได้พูดคุยหรือพิจารณาการร่วมบอยคอตกับเหล่าพันธมิตรหรือพาร์ตเนอร์ต่างๆ” เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาได้ส่งจดหมายแถลงการณ์ถึง CNBC
โดยก่อนหน้านี้ เน็ด ไพรซ์ โฆษกกระทรวง เสนอระหว่างการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า การบอยคอตโอลิมปิกฤดูหนาวอาจเป็นหนึ่งในหนทางที่จะกล่าวถึงปัญหาสิทธิมนุษยชนของประเทศจีน ทำให้เกิดกระแสการรายงานข่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมบอยคอตการแข่งขัน แต่ล่าสุดทางกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาชี้แจงผ่านสื่อต่างประเทศว่า พวกเขาไม่ได้พูดคุยกับชาติพันธมิตรเรื่องการพิจารณาบอยคอตการแข่งขันแต่อย่างใด
สำหรับการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 จะทำการแข่งขันระหว่างวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ถึง 20 กุมภาพันธ์ปี 2022 โดยการบอยคอตการแข่งขันอาจจะเกิดขึ้นจากการที่รัฐบาลของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันทำงานร่วมกับพันธมิตรในการกดดันจีน
โดยสื่อต่างประเทศรายงานว่า โจ ไบเดน ได้พูดคุยกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีน ก่อนหน้านี้ว่า วิธีการรับมือจีนของเขาจะแตกต่างกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเขาจะใช้วิธีทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพันธมิตรในการสร้างแรงกดดันไปยังกรุงปักกิ่ง
ความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐฯ เข้าสู่สภาวะตึงเครียดท่ามกลางสงครามการค้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีได้แบนบริษัทด้านเทคโนโลยีของจีนในการทำธุรกิจในสหรัฐฯ รวมถึงได้กล่าวหาจีนด้วยข้อหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การค้าแบบไม่ยุติธรรม และต้นเหตุของโควิด-19
แม้ว่าการกดดันรัฐบาลจีนจะได้รับการสนับสนุนจากทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ในสหรัฐฯ แต่หลายฝ่ายยังคงไม่เห็นด้วยกับการบอยคอตโอลิมปิก
อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ได้อธิบายถึงการตัดสินใจบอยคอตการแข่งขันโอลิมปิกในอนาคตว่า อาจเป็นการ “แสดงจุดยืนแบบสงครามเย็น” ของสหรัฐฯ
“เราควรที่จะไปแข่ง และเอาชนะให้ขาดลอย” อดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวผ่าน CNBC
“เราควรที่จะเป็น เจสซี โอเวนส์ แทนที่จะเป็นโซเวียตในปี 1984 (เจสซี โอเวนส์ นักกีฬาผิวดำที่คว้าเหรียญทองโอลิมปิกปี 1936 ในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งเป็นช่วงที่นาซีปกครองเยอรมนี และต้องการใช้โอลิมปิกแสดงศักยภาพของชาวเยอรมนีในยุคของรัฐบาลอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ส่วนโอลิมปิกปี 1984 คือปีที่สหภาพโซเวียตและพันธมิตรบอยคอตการแข่งขันที่ลอสแอนเจลิส เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ และพันธมิตรที่ตัดสินใจบอยคอตโอลิมปิกปี 1980 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ)
อ้างอิง:
